คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ประกาศในวันพุธ (12 ธันวาคม) ว่า หลังจากใช้เวลาตรึกตรองหลายสัปดาห์ เขาตัดสินใจได้ว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิดีโจ ไบเดน ในวันที่ 20 มกราคม 2568
การประกาศมีขึ้นเพียงกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาจะเสนอชื่อ แคช พาเทล อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง รับตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ ทำให้เรย์มีทางเลือกแค่ลาออกหรือรอถูกปลด
เรย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการเอฟบีไอ แทนเจมส์ โคมีย์ ที่ถูกปลดในปี 2560 สมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ตำแหน่งนี้มีวาระ 10 ปี เพื่อป้องกันอิทธิพลทางการเมืองจากการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล แต่ความสัมพันธ์มีรอยร้าว เมื่อเขาดำเนินการสอบสวนทรัมป์ที่นำไปสู่การยื่นฟ้องเขา 2 คดีในปีที่แล้ว
ที่ผ่านมาทรัมป์และสมาชิกพรรครีพับลิกัน กล่าวหาว่า เอฟบีไอถูกครอบงำทางการเมือง แม้ไม่มีหลักฐานว่าประธานาธิบดีไบเดนแทรกแซงกระบวนการสอบสวนทรัมป์แต่อย่างใด
สำหรับผู้สนับสนุนของทรัมป์ มองว่า การลาออกของเรย์เป็นอีกหนึ่งชัยชนะของทรัมป์ในการหวนคืนสู่ทำเนียบขาวสมัยที่ 2 และพาเทล ซึ่งภักดีต่อทรัมป์ ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะกำจัดผู้สมคบคิดที่จ้องทำลายทรัมป์ ซึ่งหมายรวมไปถึงคนในรัฐบาลหรือสื่อ ซึ่งต่อต้านทรัมป์
ในสมัยแรกของทรัมป์ พาเทลซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย เคยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหม, รองผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปราบปรามการก่อการร้ายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ
นักวิเคราะห์ด้านกฎหมายหลายคนแสดงความกังวลว่า การลาออกของเรย์จะเป็นอีกความท้าทายต่อหลักนิติรัฐ และสะท้อนถึงความพยายามของทรัมป์ที่จะควบคุมหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ เพื่อเป้าหมายส่วนตัวทางการเมือง
ขณะที่นักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยบางคน มองว่า เรย์ไม่ควรลาออก แต่รอให้ถูกปลด เพื่อชะลอและย้ำให้เห็นถึงการยึดเครื่องมือของระบบยุติธรรมโดยประธานาธิบดีใหม่ ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิด
แต่เรย์บอกเหตุผลที่ลาออกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เอฟบีไอถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้ง ขณะที่ทรัมป์โพสต์ในทรูธ โซเชียลว่า การลาออกของเรย์เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับอเมริกา