“ปูติน” ชี้ศึกในยูเครน ชี้ชะตาความอยู่รอดของรัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ รอสซิยา 1 ในวันที่ 22 ก.พ. แต่แพร่ภาพในวันอาทิตย์ โดยกล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนที่ยืดเยื้อนานหนึ่งปี และพยายามชี้ให้เห็นว่า สงครามครั้งนี้เป็นการชี้ชะตาของรัสเซีย เพราะชาติตะวันตกมีเป้าหมายเดียว คือ การทำลายรัสเซียแบบเดียวกับการทำลายสหภาพโซเวียต

ปูตินระบุว่า ชาติตะวันตกต้องการทำลายรัสเซีย และควบคุมแหล่งผลิตวัตถุดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะนำไปสู่การทำลายประชาชนส่วนใหญ่ของรัสเซีย รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์รัสเซีย

นอกจากนี้ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า ความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ และยุโรปแก่ยูเครนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังเผชิญหน้ากับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เหมือนในยุคสงครามเย็นที่เป็นความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกและโซเวียต 

แม้สหรัฐฯ ปฏิเสธว่า ไม่ต้องการทำลายรัสเซีย แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและนาโตอาจจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 และปูตินไม่ควรอยู่ในอำนาจอีกต่อไป

ส่วนกรณีที่ปูตินประกาศเมื่อวันอังคารระงับการเป็นภาคีในสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ล่าสุดเขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า อาจรื้อฟื้นการเจรจาเข้าร่วมเป็นภาคีต่อไป ก็ต่อเมื่อครอบคลุมถึงอาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสและอังกฤษด้วย  โดยปูติน กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ชาติยักษ์ใหญ่ในนาโตประกาศเป้าหมายหลักว่าจะสร้างความพ่ายแพ้ให้กับรัสเซีย ทำให้รัสเซียไม่อาจเพิกเฉยต่อศักยภาพนิวเคลียร์ของชาตินาโตเหล่านั้นได้

ปัจจุบันมีข้อมูลที่เชื่อว่า รัสเซียมีจำนวนหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า สหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศสรวมกัน