ผู้ว่าการแคว้นคาร์คีฟ เปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูก โจมตีใจกลางเมืองคาร์คีฟในเช้าวันอาทิตย์ โดยลูกหนึ่งทำลายอาคารอพาร์ตเมนต์ และอีกลูกหนึ่งทำลายมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 ราย
ผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งทำให้อาคารมหาวิทยาลัยได้รับความเสียหาย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่มหาวิทยาลัยถูกโจมตีนับตั้งแต่สงครามเริ่มเปิดฉากขึ้นในเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ถูกตัวอาคารกลาง ทำให้พื้นที่ 3 ชั้นได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ผู้ว่าการแคว้นคาร์คีฟ ระบุว่า มหาวิทยาลัยถูกยิงด้วยขีปนาวุธ เอส-300
ที่ผ่านมาทางการยูเครน อ้างว่า แคว้นคาร์คีฟ ที่อยู่ห่าง 35 กม. จากชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนใกล้กับรัสเซีย ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธเอส-300 หลายครั้ง โดยถูกยิงจากแคว้นเบลโกรอดของรัสเซีย
ขณะที่โอเลกซิล เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน กล่าวว่า รัสเซียอาจมีการโจมตีครั้งใหญ่ภายในเดือนนี้ แต่ยูเครนมีกำลังเพียงพอต้านทานกองกำลังของรัสเซีย แม้อาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหม่ที่ชาติตะวันตกสัญญาจะมอบให้ล่าสุดจะส่งมาไม่ทันเวลาก็ตาม แต่ก็ให้คำมั่นด้วยว่า ยูเครนจะไม่ใช้อาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีดินแดนของรัสเซีย และจะทำลายกองกำลังของรัสเซียในดินแดนของยูเครนที่ถูกยึดครองเท่านั้น
ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะจัดส่งจรวดใหม่ ที่มีพิสัยการยิงมากกว่าของยูเครน 2 เท่าให้ โดยรวมอยู่ในความชวยเหลือทางทหารมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ยืนยันปฏิเสธคำขอของยูเครน ที่ต้องการขีปนาวุธที่มีพิสัยการยิง 300 กม. แต่ตกลงให้ขีปนาวุธที่มีพิสัยการยิง 150 กม. แทน