รัสเซียห้ามขายน้ำมันให้ชาติที่จำกัดเพดานราคา

ประกาศคำสั่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำหนดห้ามการจัดส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากน้ำมันของรัสเซียแก่องค์กรและบุคคลต่างชาติ ในกรณีที่สัญญาซื้อขายมีกลไกกำหนดราคาสูงสุดทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม  ซึ่งหมายถึงกรณีที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำหนดใช้เพดานราคาต่อน้ำมันของรัสเซีย

คำสั่งของปูตินจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 -1 ก.ค. 2566 รวมระยะเวลา 5 เดือน โดยบังคับใช้กับสินค้าน้ำมันดิบก่อน ส่วนผลิตภัณฑ์จากน้ำมันจะมีการกำหนดเวลาอีกครั้ง และอาจเริ่มมีผลหลังวันที่ 1 ก.พ. แต่คำสั่งนี้อาจยกเลิกในบางกรณีได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเป็นพิเศษของประธานาธิบดีปูติน  

ประกาศคำสั่งที่เผยแพร่ในเวบไซต์ของรัฐบาลและทำเนียบเครมลิน ระบุว่า มาตรการนี้เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการกระทำที่ไม่เป็นมิตรและสวนทางกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยสหรัฐฯ, ต่างประเทศอื่น ๆ และองค์กรระหว่างประเทศ

กลุ่มจี7 ที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น พร้อมด้วยสหภาพยุโรป และออสเตรเลีย เริ่มบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลของรัสเซียที่ราคา 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อมุ่งตัดรายได้ของรัสเซียและเพิ่มแรงกดดันให้ยุติสงครามในยูเครน   

ขณะที่อันโตน ซิลัวนอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัสเซียอาจเพิ่มขึ้นเกินกว่า 2% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศหรือจีดีพี ในปี 2566 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการจัดเพดานราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อรายได้การส่งออกของรัสเซีย

แต่นักวิเคราะห์บางคน มองว่า เพดานราคาจะมีผลกระทบทันทีเพียงเล็กน้อยต่อรายได้จากการส่งออกน้ำมัน ที่รัสเซียได้รับในขณะนี้