ผู้เชี่ยวชาญชี้ 'สี จิ้นผิง' ถอยกลับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไม่ได้

ชาวโซเชียลมีเดียจีนแชร์ภาพรถถังหลายคัน ที่กำลังวิ่งอยู่บนถนนสายหนึ่งในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของประเทศและอยู่ติดกับนครเซี่ยงไฮ้ สร้างความวิตกว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์กวาดล้างผู้ประท้วงมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ซ้ำรอยเหตุการณ์เทียน อัน เหมิน เมื่อปี 2532

ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ยังคงเป็นศูนย์กลางการประท้วง เมื่อฝูงชนจำนวนมากช่วยกันกระชากประตูที่ถูกมัดไว้เพื่อปิดกั้นพวกเขาจากโลกภายนอก นอกจากนี้ยังพบว่าฝูงชนที่ทำลายแบร์ริเออร์ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงล้วนอยู่ในวัยผู้ใหญ่จนถึงวัยกลางคน ไม่ใช่พวกหนุ่มสาวหรือนักเรียน-นักศึกษา บ่งชี้ถึงความรู้สึกอัดอั้นที่ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติของคนในวัยนี้ได้ และนอกจากการประท้วงที่รวมถึงการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกแล้ว ผู้ประท้วงในอู่ฮั่นยังร้องตะโกนด้วยว่า "ในเมื่อการระบาด (ของโควิด-19) เริ่มต้นที่นี่ก็ให้มันจบลงที่นี่"

ขณะที่รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนล่าสุดอยู่ที่ 3,822 คน โลกโซเชียลมีเดียได้แชร์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ศูนย์กักตัวแห่งหนึ่ง ในมณฑลชานซี ที่ไม่มีทั้งอุปกรณ์การแพทย์และการดูแลทางการแพทย์ การไปอยู่ตามศูนย์กักตัวไม่ต่างอะไรจากการไปติดคุก โดยในคลิปได้แสดงให้ผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง ออกจากห้องมาขอความช่วยเหลือก่อนจะเป็นลมหมดสติไปโดยไร้การเหลียวแล ชาวเน็ตบางคนได้เตือนความจำว่าการที่ไม่มีการดูแลทางการแพทย์อย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ป่วยที่ถูกส่งไปตามศูนย์กักตัวต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ทั้งยังมีการแชร์คลิปวิดีโอศูนย์กักตัวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อเตรียมไว้รองรับผู้ป่วยที่ต้องกักตัวแบบแยกเดี่ยว 90,000 ห้อง เนื่องจากห้องไอซียูตามโรงพยาบาลมีเตียงรองรับผู้ป่วยหนักเฉลี่ยไม่ถึง 4 เตียงต่อ 100,000 คน 

ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ มาตรการควบคุมโควิด-19 ของทางการจีน "เป็นความผิดพลาดที่พวกเขาไม่อาจยอมรับ และจะไม่มีทางยอมรับ" และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเผชิญการถูกคุกคามอำนาจครั้งใหญ่หลวงที่สุด จากการประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทั่วประเทศ รวมทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และอู่ฮั่น

แต่ก็มีบางคนคาดการณ์ว่า ผู้นำจีนอาจเลือกใช้กำลังเข้ากวาดล้าง แทนการกลับลำนโยบายที่จะทำให้เขาต้องเสียหน้า แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกการใช้กำลังหรือยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ก็ล้วนแต่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีต่อตำแหน่งและอำนาจของเขาทั้งสิ้น และการที่จีนไม่สามารถถอยกลับได้ ก็เพราะคลื่นการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในตอนนี้ จะทำให้ระบบการรักษาของจีน "ทุพพลภาพ" เพราะสิ่งที่หมกเม็ดเอาไว้ คือยังมีคนอีกหลายล้านที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนคนที่ได้รับก็ยังเป็นที่สงสัยว่ามีประสิทธิภาพพอจะป้องกันไวรัสหรือไม่