ครอบครัวนักเตะอิหร่านถูกขู่จำคุกและทรมาน

แหล่งข่าวที่สังเกตการณ์ทีมรักษาความปลอดภัยของอิหร่านอย่างใกล้ชิด ในการแข่งขัน "ฟุตบอลโลก 2022" ที่กาตาร์ เปิดเผยว่าครอบครัวของนักเตะทีมชาติอิหร่าน ถูกข่มขู่ว่าจะต้องติดคุกและถูกทรมาน ถ้านักเตะไม่ทำตัวดี ๆ ก่อนลงฟาดแข้งกับทีมชาติสหรัฐฯ ในนัดต่อไปของกรุ๊ป B หลังจากพวกเขาไม่ยอมร้องเพลงชาติในแมทช์แรกที่เจอกับทีมชาติอังกฤษ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน และนักเตะทั้งทีมถูกเรียกตัวเข้าพบกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ที่ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังที่ดุดันและน่าเกรงขามที่สุดของอิหร่านด้วย 

แหล่งข่าวระบุว่าพวกนักเตะได้รับแจ้งว่า ครอบครัวของพวกเขาจะเผชิญ "ความรุนแรงและการทรมาน" ถ้าไม่ยอมร้องเพลงชาติ หรือเข้าร่วมการประท้วงทางการเมืองใด ๆ เพื่อต่อต้านระบอบการปกครอง ซึ่งนักเตะต่างร้องเพลงชาติในแมทช์ที่ 2 ที่เจอกับทีมชาติเวลส์เมื่อวันศุกร์ และสามารถเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0

แหล่งระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่ IRGC หลายสิบนาย ได้รับคำสั่งให้คอยจับตานักเตะอิหร่าน ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คลุกคลีกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมทีมหรือชาวต่างชาติ โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอิหร่านจำนวนมาก ที่คอยเก็บข้อมูลและจับตานักเตะ 

ด้านนาร์ลอส เกยรอซ โค้ชชาวโปรตุเกสของทีมชาติอิหร่าน ได้พบกับเจ้าหน้าที่ IRGC หลังนักเตะและครอบครัวถูกข่มขู่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีการพูดคุยกันเรื่องอะไร แต่เกยรอซบอกว่านักเตะสามารถประท้วงในฟุตบอลโลกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของฟีฟ่า มีรายงานว่านักเตะได้รับคำสัญญาว่า พวกเขาจะได้รับของขวัญและรถยนต์ ก่อนลงสนามเจอกับทีมชาติอังกฤษ แต่ได้เปลี่ยนเป็นคำขู่หลังจากพวกเขาไม่ยอมร้องเพลงชาติ 

ส่วนในแมทช์ที่เจอกับเวลส์ รัฐบาลได้ส่งผู้สนับสนุนที่เป็น "นักแสดง" หลายร้อยคน ไปสร้างความรู้สึกผิด ๆ ว่าพวกเขาได้รับกำลังใจและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล ส่วนในแมทช์ที่จะเจอกับสหรัฐฯ รัฐบาลก็วางแผนจะเพิ่มจำนวนนักแสดงให้เป็นหลายพันคน 

นักเตะทีมชาติอิหร่านต้องลงแข่งขันฟุตบอลโลกท่ามกลางความผันผวนในประเทศ โวลเกอร์ เติร์ก (Volker Turk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าอิหร่านเผชิญวิกฤตสิทธิมนุษยชนอย่างรูปแบบ จากการกวาดล้างผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบการปกครอง และเกิดการประท้วงที่สั่นคลอนอำนาจรัฐมากที่สุดในรอบกว่า 40 ปี