เจ้าหน้าที่ของสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เมห์ราน คาริมี แนสเซรี ชายชาวอิหร่านเสียชีวิต หลังเกิดอาการหัวใจวายภายในอาคารผู้โดยสาร เทอร์มินอล 2เอฟ ช่วงเที่ยงวันเสาร์ตามเวลาท้อถิ่น ตำรวจและหน่วยฉุกเฉินพยายามช่วยปฐมพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
แนสเซรีอาศัยอยู่ในอาคารผู้โดยสาร เทอร์มินอล 1 ระหว่างปี 2531-2549 เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทาง แต่ต่อมาเขาเลือกใช้ชีวิตที่นี่ต่อด้วยความสมัครใจ
แนสเซรีออกเดินทางจากอิหร่านไปอังกฤษเพื่อตามหาแม่ในปี 2517 และเมื่อกลับไป เขาถูกจำคุกเนื่องจากการประท้วงพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน และถูกเนรเทศออกนอกประเทศโดยไม่มีหนังสือเดินทาง เขายื่นขอลี้ภัยทางการเมืองในหลายประเทศในยุโรป ซึ่งต่อมาสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในเบลเยียมให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่เขา แต่กระเป๋าเอกสาร ที่ใส่ใบรับรองสถานะผู้ลี้ภัยถูกขโมยในสถานีรถไฟในกรุงปารีส ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมเขา แต่ไม่สามารถเนรเทศไปที่ใดได้ เพราะเขาไม่มีเอกสารรับรอง
แม้ต่อมาเขาได้รับใบรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากฝรั่งเศสในปี 2542 แต่กลัวที่จะออกจากสนามบิน จึงไม่เซ็นเอกสารและอยู่ในสนามบินต่อไปจนกระทั่งล้มป่วย ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในปี 2549 ต่อมาได้รับอนุญาตให้พักอาศัยภายในกรุงปารีส
ตลอดเวลาหลายปีที่เขาติดอยู่ในสนามบิน เขานอนบนม้านั่ง รู้จักสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ในสนามบิน อาบน้ำในห้องน้ำของพนักงาน เขียนไดอารี อ่านนิตยสารและหนังสือพิมพ์ และทักทายผู้โดยสารที่ผ่านไปมา พนักงานในสนามบินเรียกเขาว่า “เซอร์อัลเฟรด” และเขากลายเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้โดยสาร
เรื่องราวชีวิตของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้สตีเวน สปีลเบิร์ก สร้างภาพยนตร์เรื่อง The Terminal ที่นำแสดงโดยทอม์ แฮงค์ส และออกฉายในปี 2547 หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นคนดังที่มีสื่อขอสัมภาษณ์ในแต่ละวัน แนสเซรีใช้เงินที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้จ่ายค่าที่พักที่โฮสเทลในปารีส
เจ้าหน้าที่สนามบิน เปิดเผยว่า แนสเซรีเพิ่งกลับไปที่สนามบินเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว และอยู่ที่นั่นจนถึงวาระสุดท้าย และเขายังมีเงินสะสมหลายพันยูโร