ออฟเจม ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านพลังงานของอังกฤษ ประกาศในวันนี้ (26 ส.ค.) ว่าจะปรับเพิ่มเพดานราคาพลังงาน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตสามารถเรียกเก็บค่าไฟและค่าก๊าซจากผู้บริโภคได้สูงสุดโดยเฉลี่ยเป็น 3,549 ปอนด์ต่อปี หรือราว 150,000 บาทต่อปี โดยเพิ่มขึ้น 80% และจะเริ่มมีผลบังคับในเดือนต.ค.
การปรับขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประชาชน 24 ล้านครัวเรือนในอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ แต่ไอร์แลนด์เหนือมีระบบการเรียกเก็บค่าพลังงานแยกต่างหาก
องค์กรการกุศลแนชันแนล เอ็นเนอร์จี แอคชัน บอกว่า ราคาพลังงานใหม่เป็นหายนะ และจะทำให้ประชาชน 9 ล้านครัวเรือนยากลำบากยิ่งขึ้น โดยจะอยู่ในกลุ่มความยากจนด้านพลังงาน ซึ่งหมายถึง ครัวเรือนต้องใช้เงินมากกว่า 10% ของรายได้เพื่อจ่ายค่าพลังงาน
ออฟเจมยังเตือนด้วยว่า สถานการณ์อาจแย่ลงอีกในเดือน ม.ค. ปีหน้า ที่คาดว่าจะมีการปรับเพดานราคาพลังงานรอบใหม่ ที่อาจสูงถึง 5,000 ปอนด์ต่อปีหรือราว 210,000 บาทต่อปี
ค่าพลังงานปรับสูงขึ้นในปีนี้หลังจากราคาก๊าซและค่าไฟพุ่งสูงขึ้นก่อนแล้ว เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ตามด้วยสงครามยูเครน และรัสเซียตัดการส่งออกก๊าซให้บางชาติในยุโรป ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี