“หญิง รฐา โพธิ์งาม” กับสามี “ตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยา” เป็นอีกคู่ที่จับมือกันและอยู่เคียงข้างกันมาตลอด คู่รักคู่นี้น่ารักและสวีตกันสุดๆ ชอบทำกิจกรรมร่วมกันส่วนมากที่แฟนๆได้เห็นมักจะเป็นการออกกำลังกายและวิ่ง ร่วมกันอยู่บ่อยครั้งแต่ครั้งล่าสุดขณะที่สามีวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศ ทำเอาภรรยาถึงกับต้องสวดมนต์ช่วย โดยเจ้าตัวออกมาเปิดใจเล่าแบบละเอียดยิบกับวินาทีเฉียดตายของสามี พร้อมเตือนคนวิ่งมาราธอนต้องเช็กสุขภาพบ่อยๆอีกด้วย
ล่าสุดเรื่องที่เกิดกับ “ตุลย์” กับการวิ่ง 100 กก. ที่ต่างประเทศล่ะ?
หญิง : อันนี้ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย เรื่องเกิดที่สิงหาปีที่แล้ว เป็นการวิ่งเทรล เป็นการวิ่งผ่านฝรั่งเศส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ วิ่งข้ามภูเขา พี่ตุลย์ลงระยะ 100 กิโลเมตร เขาที่เมืองนอกมีความชันมากกว่าประเทศเรา เขาวิ่งไปได้ 50 กิโลเมตร เขาก็ปัสสาวะเป็นสีเลือด เริ่มขุ่นๆ เริ่มออกสีชมพูแดง ส่งรูปให้คุณแม่พี่ตุลย์ดู ซึ่งคุณแม่เคยเป็นพยาบาลมาก่อน เขาก็แนะนำให้เข้าเต็นท์พยาบาล เช็คความดัน เช็คค่าไตดู เหมือนไตทำงานผิดปกติ เราก็โทรไปหาที่โรงพยาบาลที่สวิตฯ กว่ารถจะมารับเพราะต้องวิ่งขึ้นเขา และที่ๆ พี่ตุลย์ไปวิ่งคือต้องวิ่งบนเขา ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง กว่ารถพยาบาลจะมาถึง ซึ่งระหว่างที่เรารอ เราไม่รู้ว่าเลือดที่มันเข้าไปอยู่ในไตเท่าไรแล้ว
เอาง่ายๆ อาจจะเกิดภาวะไตวายก็ได้ เพราะมันก็จะกระทบการทำงานในส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจถึงชีวิต หญิงไม่เคยเจอความกดดันอะไรขนาดนั้นในชีวิต จากตรงนั้นมาถึงโรงพยาบาลก็ชั่วโมงกว่า ซึ่งระหว่างมาโรงพยาบาล เขาก็ได้ให้น้ำเกลือมาตลอด และพอมาถึงโรงพยาบาลเขาก็ให้ปัสสาวะดูอีกที สีมันก็เริ่มดีขึ้น แต่ต้องเช็คอัพหัวใจด้วย รีเชคทั้งร่างกาย เราต้องนั่งสวดมนต์รออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นครั้งแรกที่เราแพนิก ตัวสั่น ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เราคิดเผื่อไว้มันอาจจะมีบ้างอย่างเกิดขึ้น เราก็คิดว่าเราจะต้องทำอะไรต่อ แต่พอตอนเช้าไปเห็นสีหน้าเขา ดีขึ้น ค่าไตดีขึ้น เราโทรหาหมอดูด้วย เพื่อขอเห็นพระพิฆเนศ พระแม่รัศมี สวดมนต์ช่วยหน่อย
หญิง : เคสแบบนี้เกิดขึ้นเวลาที่เราออกกำลังกายหนักๆ เราเติมน้ำเข้าไปไม่ทัน มันทำให้ร่างกายใช้กล้ามเนื้อจนเกินความจำเป็น มันทำให้กล้ามเนื้อสลาย พอกล้ามเนื้อสลาย และของเสียมันออกมาทางเหงื่อ และเลือดมันเข้าไปคลั่งในไต ทำให้ไตมีประสิทธิภาพน้อยลง และถ้าเราไม่สามารถกำจัดของเสียพวกนี้ออกไปให้เร็ว มันจะเป็นปัญหากับระบบอื่น ทางแก้ไขคือเวลาออกกำลังกายเราต้องรู้ลิมิตของตัวเอง ดื่มน้ำให้พอสำหรับการออกกำลังกาย เติมน้ำให้ทัน ของพี่ตุลย์มีเคสคือเจ็บขามาก่อน และช่วงเวลาก่อนไปแข่งเขากินยาแก้ปวดด้วย มันเลยทำให้ตับหรือไตทำงานหนักอยู่แล้ว แต่ระหว่างวิ่งไม่ได้ทาน
พอหายแล้ว เรามีกฎเหล็กไหม?
หญิง : ไม่ได้ห้ามวิ่ง แต่ในระยะแบบนี้ หรือถ้าอะไรที่มันมากเกินความจำเป็น เราต้องตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ ว่าค่าไตเป็นยังไง ถ้าไม่ดีหรือทรงๆ เราจะได้รู้ว่าเราควรออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะพอ และ 1 เดือนหลังจากกลับสวิตฯ ไม่ให้ดื่มเลย
ที่มารายการคุยแซ่บShow