"เกรท" เปิดใจเล่าหลังรับบทอันทรงเกียรติ ขุนหลวงท้ายสระ ในละครพรหมลิขิต

พรหมลิขิต ภาคต่อจาก บุพเพสันนิวาส ละครที่นำพาคนดูกลับสู่ยุคกรุงศรีอยุธยาอีกครั้งและยังเป็นการรวมตัวของสุดยอดนักแสดงมากฝีมือไว้มากมายอีกหนึ่งตัวละครลับที่มีบทบาทการเชื่อมต่อในเรื่องนั่นก็คือ  สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ หรือ เจ้าฟ้าเพชร รับบทโดย เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ พระเอกหนุ่มมากฝีมือ

โดยก่อนหน้านี้ทางหนุ่มเกรทเลยได้ไปกราบสักการะขอพรถิ่นกำเนิดเรื่องราว ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไหว้สักการะ 5 สถานที่สำคัญ ได้แก่ พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง  ศาลหลักเมือง วิหารพระมงคลบพิตร  วัดพุทไธศวรรย์ และ วัดมเหยงคณ์  โดย เกรท วรินทร เปิดใจเล่าว่า  "เพื่อความสบายใจของผมครับ ตัวผมเลยตั้งใจมาไหว้ขอพร แล้วก็ขอขมาอะไรก็ตามที่เราทำไม่ดี ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ก็ขอให้ท่านอวยพรให้ทุกอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นละครหรือบทบาทที่เราเล่น"

เพราะว่าเวลาผมแสดงผมจะไหว้ก่อนทุกครั้ง แล้วผมรู้สึกว่าเวลาถ่ายทำไม่รู้สึกติดขัด สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมเล่นเป็นกษัตริย์ ผมคิดว่าบทบาทแบบนี้ในชีวิตของการแสดงมันคงไม่ง่ายที่จะมีมาให้ได้รับบ่อยๆ ถึงเป็นแค่บทรับเชิญแต่เป็นบทที่ดี และค่อนข้างสำคัญ ซึ่งเรารับรู้ได้ว่าทั้งพี่หน่อง แล้วก็ทางช่อง ค่อนข้างที่จะใส่ใจกับบทตัวละครตัวนี้ อีกอย่างตัวละครตัวนี้มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ผมเลยอยากลองด้วย ถามถึงชุดที่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นกษัตริย์ในสมัยก่อนแบบเต็มยศครั้งแรก ขนลุกเหมือนกันครับ เหมือนมีพลังงานบางอย่าง

พอได้ใส่เราก็รู้สึกถึงความขลัง เวลาเราใส่ชุดตำรวจ ใส่ชุดทหาร เวลาที่เราได้ใส่ชุดที่ส่งเสริมในอาชีพนั้น ๆ มันก็จะมีความรู้สึกไปตามชุด แต่ชุดของกษัตริย์จะมีอารมณ์ความเข้มข้นที่ต่างกันออกไป ซึ่งเป็นความขลังบางอย่างที่เราไม่สามารถอธิบายให้หลายคนเข้าใจได้ และยังมีซีนที่ต้องนั่งบังลังก์ด้วยเหมือนผมแบกความรู้สึกบางอย่างที่เราอยากทำบทบาทนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ด้วยความเคารพ มันเป็นพลังงานบางอย่างที่เรารู้สึกว่าบทนี้ต้องเล่นอย่างระมัดระวัง

ต้องเล่นอย่างพิถีพิถัน เราต้องถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุด ผมตั้งใจมากเวลาเราใส่ชุดเราจะไม่หยอกล้อเล่นกับใคร ด้วยเพราะว่าท่านมีจริงในประวัติศาสตร์ อันนี้เป็นข้อสำคัญ นักแสดงท่านอื่นที่ได้รับบทเป็นบุคคลที่เคยมีอยู่จริงก็ต้องรู้สึกเหมือนกัน บทพูดการแสดงอารมณ์ในบางฉากที่ยากต้องอธิบาย หรือต้องพูดเนื้อหาบางอย่างที่มีอยู่ในอดีตจริง ๆ เราก็ต้องแม่นกับเรื่องพวกนี้ 

เกร็ดความรู้  สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่๙ หรือ พระเจ้าท้ายสระ เป็นพระโอรสของพระเจ้าเสือ และมีพระอนุชาคือ เจ้าฟ้าพรในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ยังมีพระชนม์ชีพพระองค์ทรงโปรดปลาตะเพียนมาก จึงเป็นที่มาของการออกพระราชกำหนดกฎหมายห้ามผู้หนึ่งผู้ใดกินปลาตะเพียน หากฝ่าฝืนลงโทษปรับสินไหม ดังความในพระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของ บริติชมิวเซียมกรุงลอนดอน ตอนหนึ่งว่า

“...ครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทรงพระประพฤติเหตุในอโนตัปธรรม แล้วเสด็จเที่ยวประพาสทรงเบ็ดเหมือนสมเด็จพระราชบิดา แล้วพระองค์พอพระทัยเสวยปลาตะเพียน ครั้งนั้นตั้งพระราชกำหนดห้ามมิให้คนทั้งปวงรับประทานปลาตะเพียนเป็นอันขาด ถ้าผู้ใดเอาปลาตะเพียนมาบริโภคก็ให้มีสินไหมแก่ผู้นั้นเป็นเงินตรา ๕ ตำลึง...”