นางสาวไทย 47 คนสุดท้ายเต้นรำ อวดลีลา ชูชุดผ้าไทยพื้นถิ่นจาก Local สู่เลอค่า

“Debutante Gala Night” งานเลี้ยงเต้นรำเปิดตัวสาวงาม 47 คนสุดท้ายแห่งเวทีการประกวดนางสาวไทย 2566 อย่างเป็นทางการในปี้นี้  ก่อนจะเปิดเวทีด้วยการแสดงแฟชั่นอันงดงามใน “ชุดราตรีผ้าไทย” ของผู้เข้าประกวดนางสาวไทย 2566 โดยชุดที่สาวงามทั้ง 47 คนสวมใส่ เป็นชุดผ้าไทยพื้นถิ่นจากแต่ละจังหวัดทั้ง 4 ภูมิภาค ผสานดีไซน์ที่เป็นสากล ตามแนวคิด #จากLocalสู่เลอค่า และนอกจากชุดราตรีผ้าไทยทั้ง 4 ภูมิภาคแล้ว ในค่ำคืนนี้พวกเธอยังได้โชว์พร้อมกับกระเป๋าสวย ๆ ที่เป็นผลงานของ “มูลนิธิชัยพัฒนา” เพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ความงดงาม และความวิจิตรอลังการของหัตถกรรมไทย

ต่อด้วยการลิ้มรสอาหารสุดพิเศษของค่ำคืนนี้คือ กรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระเมตตาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเมนูอาหาร จำนวน 9 เมนู จากหนังสือ “อร่อยชัยพัฒน์” โดยส่วนผสมของวัตถุดิบต่าง ๆ ในเมนูอาหารล้วนมาจากผลผลิตจาก มูลนิธิชัยพัฒนา ผลผลิตจากการพัฒนาสู่ความยั่งยืน

ส่วนช่วงไฮไลท์ของค่ำอันแสนมหัศจรรย์ สาวงามทั้ง 47 คนได้ปรากฏตัวในชุดราตรีสุดหรูหราอีกครั้ง พร้อมโชว์ลีลาลีลาศ Debutante Gala Night โดยได้รับเกียรติจาก คณะทำงานสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มาเปิดฟลอร์เต้นรำกันร่วมกับ ทีมนางสาวไทย 2565 นำโดย นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์, มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร, นิดา วนิดา ดอกกุหลาบ, นิกกี้ อธิชา เรนนี่ และ คุณไข่มุก ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข จากนั้นผู้เข้าประกวดนางสาวไทย 2566 จาก 10 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ นครปฐม พัทลุง พิษณุโลก ภูเก็ต ระนอง ลำพูน สกลนคร สมุทรปราการ และ หนองคาย ได้ร่วมเต้นรำกับผู้มีเกียรติในงาน ภายใต้บรรยากาศงานเต้นรำย้อนยุค ณ วังสราญรมย์ ที่อบอวลไปด้วยมนตร์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของการผสมผสานสองยุคเข้าด้วยกัน

ร่วมเป็นกำลังใจและติดตามการประกวด นางสาวไทย 2566  โดยรอบPreliminary Competition จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม และรอบ Final Competition ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม ร่วมลุ้นสาวงามท่านใดจะเป็นนางสาวไทยคนใหม่ ผู้ครอบครองมงกุฎเกียรติยศและดำรงตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2566