svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"หมอช้าง ทศพร" เปิดใจ ชีวิตพลิกผันเป็น "หมอดู" เพราะบ้านล้มละลาย

27 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักนักพยากรณ์ชื่อดัง "หมอช้าง ทศพร" ที่วันนี้เจ้าตัวจะมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นนักโหราศาสตร์ จากลูกคุณหนูไฮโซ เรียนจบวิศวะ ที่บ้านมีธุรกิจใหญ่โต แต่ต้องเปลี่ยนตัวเองมาทำอาชีพนี้เพราะเหตุใด

ไม่เคยคิดเป็นนักพยากรณ์ดวงชะตามาก่อน เพราะตัวเองจบวิศวะ ?

"ถอยหลังไป 20 กว่าปีที่ผ่านมา เด็กในยุคนั้นไม่มีใครอยากเป็นหมอดู ไม่เหมือนในยุคปัจจุบัน ตอนนั้นตกกระไดพลอยโจน ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงฐานะทางครอบครัวค่อนข้างดี มีธุรกิจ มีกิจการของครอบครัวเป็นโรงงานก็ใหญ่โต คุณพ่อเป็นวิศวะกร พ่อก็ตั้งใจเรามีโรงงาน ลูกเรียนจบแล้วตามสูตรก็เป็นผู้จัดการโรงงาน อันนั้นมันเป็นสิ่งที่ถูกวางรากฐานมาตั้งแต่เด็กๆ"

"แต่ว่าเหตุการณ์ในชีวิตคนเรา แม้กระทั่งชีวิตหมอดูเอง มันก็ไม่เป็นอย่างที่คิดเสมอไป ที่เราจำได้ มันจะมียุคที่เกิดวิกฤติฟองสบู่ปี40 ช่วงนั้นเป็นช่วงธุรกิจใหญ่ๆ มีปัญหากันหมด รวมไปถึงธุรกิจของที่บ้านด้วย แต่ด้วยความโชคดีผมเรียนจบพอดี จากแพลนเดิมเราไปทำงานที่บ้านสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไร วิศวะกรเป็นอาชีพที่ตกงานเยอะสุดในยุคนั้น เหมือนกับโควิดธุรกิจการท่องเที่ยว ไกด์ก็ไปหมด ในยุคนั้นเป็นวิศวะกร ทีนี้ไปสมัครงานก็ยากแล้ว"

"สิ่งที่คิดได้ เรามีความรู้ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นเรียนโหราศาสตร์เรียนดวง ไม่ได้อยากเรียนด้วย เรียนเอาใจพ่อ เพราะพ่อเป็นคนชอบเรื่องนี้ พอไปเรียนก็ให้ค่าขนมเพิ่ม"

หมอช้าง ทศพร

หลังจากทางบ้านล้มละลาย ชีวิตเปลี่ยน ?  

"สมัยก่อนตอนเรามีฐานะเราจะมีรถดีๆ เปลี่ยนรถทุกวัน มีคนขับรถ พอล้มละลายรถก็หายไปทีละคันสองคัน จนผมต้องมาขึ้นรถเมล์ แต่ที่บ้านดีอยู่อย่างหนึ่ง คุณพ่อไม่ได้เริ่มต้นมาสำเร็จเลย เป็นเด็กต่างจังหวัดมาทำธุรกิจ เป็นเด็กวัดมาก่อน ถึงแม้ในช่วงที่เรามีฐานะเขาก็สอนให้เราเห็นคุณค่าของเงิน เขาอยู่กับพระศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ เขาเตือนเราตลอดว่า ชีวิตมันไม่แน่นอนหรอก วันนึงเราขึ้นรถเมล์หันไปเห็นรถเบนซ์สีฟ้าที่เราเคยนั่งสวยมาก เราคิดว่าเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเรายังนั่งอยู่ แต่มาคิดอีกทีวันนี้เราโชคดียังนั่งรถมีคนขับด้วย เพียงแต่เรามีเพื่อนนั่งเยอะขึ้น มันก็เปลี่ยนกลับมาศูนย์ใหม่"

"ชีวิตผมตลก ตอนเด็กก็ลำบาก มาเริ่มมีฐานะตอนมีธุรกิจที่บ้านตอนเราเป็นวัยรุ่น คือจากจนแล้วมารวย รวยแล้วมาจน มาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เลยรู้สึกว่าถ้าความรู้วิศวะในวันนั้นมันยังหางานไม่ได้ อีกความรู้หนึ่งที่เรายังมี คือในเรื่องของโหราศาสตร์ จากเดิมดูเป็นงานตบไหล่ ดูเสร็จ ก็ขอบคุณ เลยรู้สึกว่าความรู้นี้มันต้องมาเลี้ยงชีพ เหตุผลแรกคือไม่อยากให้พ่อแม่ต้องกังวล และไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาเดือดร้อนดูแลเรา แต่ต้องบอกเลยว่า ในวันนั้นมันไม่มีความภูมิใจ"

"คือแม่จะกังวลตลอดเวลาให้ไปสมัครงานให้ไปหางาน เพื่อนรุ่นเดียวกันจบปริญญาตรีวิศวะก็ต้องต่อ MBA ที่อเมริกา มันเป็นสูตรในยุคนั้น ซึ่งไปกันหมดเลย แต่เราก็ติดอยู่ที่เมืองไทย แต่เราก็บอกคุณแม่ให้มั่นใจว่า ถ้าเราจะทำอาชีพพยากรณ์เนี่ย เราจะทำด้วยความซื่อสัตย์ จรรยาบรรณของอาชีพเรา เราไม่ได้ไปหลอกไปโกงใคร" 

หมอช้าง ทศพร หมอช้าง ทศพร

คนแรกที่ดูแบบมีค่าครู ?

"คนแรกยาก แต่จริงๆ มันเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนเรียนจบแล้วบางทีมันไม่ได้เป็นเงิน แต่อาจได้เงินบ้าง 200-300 บาท บางทีได้เป็นขนม บางทีได้เป็นของเล่น ผมเคยมีชีวิตช่วงหนึ่งไปดูดวงอยู่แถวเซ็นเตอร์พ้อยท์ ถ้าจำได้ตรงนั้นมันมีลานน้ำพุอยู่ สมัยก่อนเคยมีร้านที่เราดูฮวงจุ้ยให้เป็นร้านถ่ายรูป พอเราไปดูฮวงจุ้ยให้ร้านเขาขายดี เขาเลยแบ่งที่ให้เรา ที่ไปตอนนั้นเพราะว่าอยากจะดูดวงเด็ก คนส่วนมากที่มาดูเป็นผู้ใหญ่ แต่รู้สึกว่าวัยเราก็ไม่ค่อยเยอะ แล้วเราไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นเท่าไหร่ เลยไปเปิดตรงนั้นให้เด็กๆ วัยรุ่น แต่ดูไม่นานสักพักก็เลิก"

จากที่ดูดวงที่สยามสแควร์ กลายมาเป็น "หมอช้าง" ?

"ต้องบอกว่าผมไม่ได้มีวันที่สวมมงกุฎแล้วตื่นเช้ามาชีวิตเปลี่ยน ไม่ได้เป็นแบบนางงามที่อยู่ๆ ชีวิตเปลี่ยนเลย ผมค่อยๆ สะสมในเรื่องของชื่อเสียง เริ่มจากการเขียนคอลัมน์ของอิมเมจ เป็นเล่มแรก ซึ่งเขียนยากมากเพราะกลุ่มคนอ่านหลากหลาย ตอนนั้นเริ่มมีแฟนคนอ่านคอลัมน์ของเรา เขียนสองคอลัมน์เลย บ้าพลังมาก เขียนเรื่องดวง แล้วก็เรื่องฮวงจุ้ย พอเริ่มมีแฟนๆ ที่อ่านติดตามคอลัมน์เราเยอะ ก็มีเล่มอื่นๆ ต่อ คนก็เริ่มเห็นเริ่มเป็นที่รู้จัก เริ่มมีการบอกต่อ แล้วออกรายการวิทยุ ออกรายการโทรทัศน์"  

หมอช้าง ทศพร หมอช้าง ทศพร ที่มา : รายการฮัลโหลซุปตาร์

logoline