นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,632.97 จุด ลบ 8.66 จุด หรือ 0.53 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,640.87 จุด และต่ำสุดที่ 1,628.66 จุดมูลค่าการซื้อขาย 62,672.68 ล้านบาทว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง ตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดแดงยกแผง เช่น ไต้หวันลง 1.7% อินโดนีเซียลง 14.4% ยกเว้นจีนบวก 0.54% ความหวังเปิดประเทศเพิ่มในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนกังวลสหรัฐฯ หรือเฟดขึ้นดอกเบี้ยร้อนแรง หลังจากที่ตัวเลข PMI ภาคบริการ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
นอกจากนี้นักลงทุนเทขายหุ้นขนาดใหญ่เป็นปัจจัยที่กดตลาด เช่น DELTA ลง 1.45% ADVANC ลง 1.86% CPALL ลง 1.54% และIVL ลง 2.4%
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือนพ.ย. ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 5.8% ซึ่งหากต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด ส่วนต่างประเทศเป็นตัวเลขขอรับสวัสดิการสหรับฯ คาดว่าจะอยู่ที่ 2.3 แสนตำแหน่ง ถ้าต่ำกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยเร่งให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้มองว่าหุ้นไทยซึม เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ทั้งในและนอกประเทศหนุน ประเมินกรอบแนวรับแรกพรุ่งนี้ที่ 1,630 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,620 จุด แนวต้านที่1,640 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เริ่มจาก TISCO (FV@B105 ) ปันผล 1 ครั้ง 7.7% AP ([email protected] ) ปันผล 6% และหุ้นที่คาดว่ามีปัจจัยบวกเฉพาะ MAJOR [email protected]) คาดรายได้เพิ่มจากภาพยนตร์อวตาร