นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ NATION Online ว่า แกว่งไซด์เวย์ หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร (โอเปกพลัส) ตกลงคงกำลังการผลิตตามเดิม ท่ามกลางความกังวลด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ โค้งสุดท้ายของปี เช่น เราเที่ยวด้วยกันเฟส 6
สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด 13-14 ธ.ค.คาดว่าขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และเกาะติดการประชุมธนาคารกลางยุโรป มองกรอบดัชนีไว้ที่ 1,620-1,660 จุด กลยุทธ์การลงทุน เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว แนะนำ CPALL (FV@B82) ตัวต่อมาคือ BBL (FV@B174) CPN (FV@B80) TLI ([email protected]) และ MINT (FV@B38)
ขณะที่ "นายจารุชาติ บูชาชาติ" นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวถึงกับ NATION Online ว่า นโยบายการเงินของสหรัฐฯมีความชัดเจนมากขึ้น หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ดังนั้นในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.ครั้งสุดท้าย ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5%
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ PMI ภาคการผลิตและการบริการสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ตลอดจนจำนวนผู้ ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่ น จีน และยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ของจีน
ส่วนหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่า แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพในกรอบ 1,630-1,665 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้นได้ประโยชน์จากโควิดแพร่ระบาดโรงพยาบาลขนาดเล็กน่าสนใจ แนะนำ IMH ([email protected]) ถัดมาคือ หุ้น KCE (FV@B51) จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัว