svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"หุ้นไทย" แกว่งไซด์เวย์ จับตาแรงงานสหรัฐฯ-กนง. ปักหมุด 6 หุ้นเด่น

27 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกประสานเสียงมองหุ้นในสัปดาห์หน้า "แกว่งไซด์เวย์"  จับตาตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ-ส่งออกของไทย-ถ้อยแถลง ผู้ว่าธปท.ต่อทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจไทยหลังประชุมกนง.  ปักหมุด 6 หุ้นเด่น 

หุ้นไทยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 3/65  ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด เนื่องจากเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังมีข่าวยกเลิกการทำ Tenderoffer ของบริษัทสื่อสาร

โดยหุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ ตามแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังโอเปกปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการเพิ่ม กำลังการผลิต ก่อนจะย่อตัวลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่พุ่งขึ้นกระตุ้นความกังวลต่อสถานการณ์โควิด

ในวันศุกร์ (25 พ.ย.) ดัชนีSET ปิดที่ระดับ 1,620.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.21% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 51,425.24 ล้านบาท ลดลง 15.33% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนีmai ลดลง 3.04% มาปิดที่ระดับ 582.43จุด ส่วนทิศทางสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร กูรูตลาดทุนให้สัมภาษณ์กับ NATION Online โดยมีปัจจัยแวดล้อมอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

เริ่มจาก "นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา"  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย)  มองว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,610-1,635 จุด คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต้นสัปดาห์ และปรับตัวลงในปลายสัปดาห์

โดยปัจจัยที่ติดตามคือวันที่ 28 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.คาดว่าจะโต 6% YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.อยู่ที่ 7.8% 

ส่วนวันที่ 29 พ.ย.ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 30 พ.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. Bloomberg consensus คาดว่าปรับขึ้นดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อและเงินทุนไหลออก รวมถึงดูแลเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ หลังธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ 0.75%  

ขณะเดียวกัน MSCI ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย ประมาณ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผลในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ส่วนการประชุม
เฟดเดือนธ.ค.ครั้งสุดท้าย คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 0.5%  ส่วนจีนล็อกดาวน์สกัดโควิด ทำให้ดัชนีไปไหนไม่ไกล

นอกจากนี้ไม่มีปัจจัยใหม่หนุน  คาดว่าปลายปีจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มโดยเฉพาะในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ

ส่วนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ นำโดย MINT (FV@B 38) ได้ประโยชน์จากท่องเที่ยว

หุ้นเด่นถัดมาคือ BBL (FV@B 174) ธีมทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น TLI ([email protected]) เข้าคำนวณใน MSCI  หุ้นเด่นอีกตัวคือ CRC (FV@B 48) และ LH (FV@B 11)

"หุ้นไทย" แกว่งไซด์เวย์ จับตาแรงงานสหรัฐฯ-กนง. ปักหมุด 6 หุ้นเด่น

ขณะที่ "นายจารุชาติ บูชาชาติ" นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  กล่าวถึงภาพรวมตลาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ากับ  NATION Online ว่า ไฮไลท์อยู่ที่กลางสัปดาห์ คือการประชุมกนง.คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยนโย บายแตะที่ระดับ 1.25% ในสิ้นปีนี้  

แต่ต้องติดตามว่า ผู้ว่าธปท. คาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตอย่างไรบ้างและปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศ รวมถึงประกาศตัวเลขส่งออกต.ค.คาดว่าจะโต 6% YOY 

รวมถึงการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซน ถ้าสูงกว่าคาด +10% YOY จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาด และหนุนค่าเงินดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่า  ตลอดจนการรายงาน  Core PCE  สหรัฐ ฯ หรือดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล
คาดว่าอยู่ที่ 5.2% YOY   และการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ตลาดมองว่าอยู่ที่ 3.8% ถ้าสูงกว่าคาดตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก 

ทั้งนี้มองว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,610-1,640 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้น Domestic Play ได้ประโยชน์จากภา วะเศรษฐกิจฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นภาครัฐ ฟุตบอลโลก

รวมถึงหุ้น Defensive โดยเฉพาะโรงไฟฟ้ารับผลบวกจากการประมูลพลังงานหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ โดยจะประกาศ รายชื่อผู้เสนอขายไฟที่ผ่านคุณสมบัติ 2 ธ.ค ส่วนหุ้นที่ชื่นชอบแนะนำ  GULF (FV@B64) IMH ([email protected])  และ SIRI ([email protected])  เป้า Consensus

 

"หุ้นไทย" แกว่งไซด์เวย์ จับตาแรงงานสหรัฐฯ-กนง. ปักหมุด 6 หุ้นเด่น

logoline