นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ทุกภาคส่วน เร่งกระตุ้นการฟื้นตัว ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้พร้อมรองรับปริมาณนักท่องเที่ยว ที่ทยอยเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงการคลังได้เสนอขอปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับธุรกิจโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมถึงกิจการร้านอาหาร (Soft Loan Re-Open) ที่ดำเนินการโดยธนาคารออมสิน ให้เอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อผู้ประกอบการ
ทั้งการขยายระยะเวลากู้ให้นานขึ้น จากเดิม 7 ปี เป็นไม่เกิน 10 ปี การให้กู้เพื่อเป็นทุน หมุน เวียนในกิจการ รวมถึงผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณาประวัติการชำระหนี้ และยังขยายเป้าหมายไปยังธุรกิจร้านอาหาร (นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยว) อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจสามารถติดต่อยื่นกู้ได้ที่ เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ
สำหรับโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan Re-Open) เปิดให้กู้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่า 50 % ของทุนจดทะเบียน วงเงินให้กู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท
ทั้งนี้สามารถเลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ หรือ ใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาห กรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ หรือ เลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับ บสย. ก็ได้ ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท
คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 1.99% ต่อปี ปลอดชำระเงินต้นสำหรับกรณีชำระคืนเงินกู้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยในปีที่ 3-10 คิดอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน กล่าวคือ กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้
ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MLR -1.0 ต่อปี กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับ บสย. คิดอัตราดอกเบี้ย MLR – 0.5 ต่อปี และกรณีที่ใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MLR ต่อปี (ปัจจุบัน MLR ธนาคารออมสิน = 6.150%)