
ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จะเริ่มคลี่คลายลงแต่ก็ทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรในหลายพื้นที่ถึงแม้ระดับน้ำจะลดระดับลงแล้ว แต่น้ำที่ท่วมจนมิดต้นข้าวก่อนหน้าที่และขังเป็นเวลานานเกือบเดือนก็ทำให้ต้นข้าวเน่าเสียหายบางส่วนก็เมล็ดลีบไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ชาวนาจึงได้วิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐนอกจากจะช่วยเหลือเงินชดเชยนาข้าวที่เสียหายแล้ว ก็อยากให้จัดหาเมล็ดพันธุ์มาแจกจ่ายด้วย เพื่อจะได้มีเมล็ดพันธุ์เพาะปลูกในฤดูกาลผลิตหน้า
โดยนางฐิตาภรณ์ ยีรัมย์ ชาวนาบ้านโนนกลาง ต.แคนดง อ.แคนดง บอกว่า ในหมู่บ้านถูกน้ำเอ่อท่วมนาข้าวเป็นวงกว้างและท่วมขังมานานเกือบ1เดือนแล้ว เฉพาะของตนเองทำนาทั้งหมด9ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายประมาณ6ไร่ ซึ่งก็ได้ไปแจ้งชื่อผู้ประสบภัยกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอรับการชดเชยเยียวยาตามขั้นตอนแล้ว แต่ก็อยากให้ทางภาครัฐได้ช่วยเหลือเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยเพราะปีหน้าคงไม่มีเมล็ดพันธุ์มาเพาะปลูก
ขณะที่ล่าสุดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศพื้นที่รับความช่วยเหลือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านอุทกภัย แล้วทั้ง23อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า34,000ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า3แสนไร่ โดยเกษตรกรที่จะขอรับเงินเยียวยา จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้นจึงจะรับเงินเยียวยา หลังจากนั้นเกษตรอำเภอ จะประกาศแจ้งให้เกษตรกรไปยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ หรือปศุสัตว์อำเภอ ตามประเภทของเกษตรกร จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบความเสียหาย ก่อนจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ30ไร่ ส่วนหลักเกณฑ์การช่วยเหลือจะได้ไม่เกินครัวเรือนละ30ไร่ ประเภทนาข้าวจะช่วยเหลือไร่ละ1,340บาท พืชไร่ละพืชผัก1,980บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆไร่ละ4,048บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดหาเมล็ดพันธุ์พืช และต้นพันธุ์ไว้สนับสนุนเกษตรกรด้วย