ชาวนาน้ำตาตกวอนรัฐบาล 'เยียวยา' 2 พันบาท/ไร่

โรงเรียนบ้านดอนเรือ ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นศูนย์อพยพของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากชาวบ้านอพยพหนีน้ำโดยใช้อาคารเรียนเป็นที่พักอาศัย โดยมีโรงครัวเป็นศูนย์กลางที่แจกจ่ายอาหาร เรื่องอาหารการกินก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทางอำเภอจัดหาอาหารสดรวมถึงเครื่องปรุงรสมาให้ ชาวบ้านก็ได้ตั้งครัวกลาง ทำอาหารอีสานรับประทานกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ปลาหร้า เช่น ส้มตำ ขนมจีน แกงอ่อม แกงหน่องไม้ เป็นต้น แต่หากมื้อไหนที่มีผู้ใจบุญนำข้าวกล่องมาบริจาค ก็จะมีการประสานแจ้งผู้นำหมู่บ้าน ก็จะรอรับน้ำใจจากผู้นำของมาให้ ส่วนน้ำดื่มตอนนี้ถือว่ายังเพียงพอ

นางจงรัก ละครชัย ผู้ใหญ่บ้านหนองหวาย หมู่ 9 ตำบลลาดพัฒนา อำเภอเมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า บ้านหนองหวายถือเป็นพื้นที่สุดเขตแดนของตำบลลาดพัฒนา อ.เมือง ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านต้องอพยพหนีน้ำท่วม มาอยู่ที่โรงเรียนบ้านท่าตูมดอนเรือ ต.ท่าตูม มีครอบครัวที่อพยพมาประมาณ 50 ครอบครัว บางครอบครัวก็ไปอาศัยอยู่บ้านญาติ โดยบ้านหนองหวายมีบ้านเรือนทั้งสิ้น 128 ครัวเรือน ประชากร 374 คน ระดับน้ำสูงสุดในบ้านอยู่ที่เกือบ ๆ 2 เมตร ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์มาโดยตลอดทำให้ชาวบ้านเก็บข้าวของขึ้นที่สูง และอพยพได้ทัน แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน เรื่องอาหารการกินก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทางอำเภอจัดหาอาหารสดรวมถึงเครื่องปรุงรสมาให้ ชาวบ้านก็ได้ตั้งครัวกลาง ทำอาหารอีสานรับประทานกัน เช่น ขนมจีน ส้มตำ แกงอ่อม แกงหน่องไม้ เป็นต้น แต่หากมื้อไหนที่มีผู้ใจบุญนำข้าวกล่องมาบริจาค ก็จะมีการ

ประสานแจ้งผู้นำหมู่บ้าน ก็จะรอรับน้ำใจจากผู้นำของมาให้ ส่วนน้ำดื่มตอนนี้ถือว่ายังเพียงพอ แต่สิ่งที่ยังขาดตอนนี้ก็คือ เรื่องอาหารสัตว์ จุดนี้มีวัวควายอพยพมา 37 ตัว ตอนนี้ขาดแคลนหญ้าสด และฟางแห้ง ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหน เพราะพื้นที่ใกล้เคียงก็ถูกน้ำท่วมไปหมดแล้ว ชาวบ้านต้องรวมเงินกันเหมารถไปเกี่ยวหญ้ามาให้สัตว์เลี้ยง จึงอยากให้หน่วยงานจัดหาอาหารสัตว์มาให้ชาวบ้านด้วย

ส่วนนางสาวสุณีย์ คำสอน ชาวบ้านหนองหวาย เปิดเผยว่า น้ำท่วมทั้งหมู่บ้านรวมถึงที่นา 10 ไร่ ทำให้ต้องอพยพมาที่โรงเรียนบ้านท่าตูมดอนเรือ นอกจากทำนาแล้ว มีอาชีพเสริมคือร้อยพวงมาลัยขาย น้ำท่วมทำให้ดอกไม้หายาก และมีราคาแพงขึ้น จากเดิมเคยซื้อดอกดาวเรืองดอกเล็กร้อยละ 30 บาท ราคาก็ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 50 บาท ส่วนดอกมะลิดอกรัก หาซื้อไม่ได้เลย ทำให้ต้องใช้เม็ดโฟม และดอกรักพลาสติกแทน ร้อยมาลัยขายราคาเพียงพวงละ 5 บาทเท่านั้น โดยจะนำไปขายที่ตลาดชุมชนบ้านเขวา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ไปกลับ 16 กิโลเมตร แต่บางครอบครัวที่มีอาชีพเสริมขายพวงมาลัยเหมือนกันก็จะนำไปขายที่ตลาดสดหนองแวง ระยะทางไปกลับ 30 กิโลเมตร ก็พอให้มีรายได้บ้างเพราะหากไม่ทำก็ไม่มีเงิน

ขณะที่นางอุบล บุญใบ ชาวบ้านหนองหวาย เล่าว่า ตนเองมีที่นา 17 ไร่ ข้าวกำลังตั้งท้องออกรวง ถูกน้ำท่วมไปหมดแล้ว ปีนี้ลงทุนสูง ปุ๋ยก็แพง เสียค่ารถไถปั่นไร่ละ 400 บาท พันธุ์ข้าวนาปรังกระสอบละ 700 บาท ปุ๋ยกระสอบละ 1,400 บาท รวมแล้วลงทุนไปกว่า 20,000 บาท ทุกอย่างจมหายไปกับน้ำ ตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไรอยากให้รัฐบาล ช่วยเยียวยาเรื่องค่าชดเชยนาข้าว อยากให้จัดหาพันธุ์ข้าวนาปรังมาให้ปลูกหลังน้ำลด หรือจะชดเชยเป็นเงินก็ได้ แต่อยากให้เยียวยาค่าชดเชยมากกว่านี้ ตอนนี้ได้ไร่ละพันกว่าบาทไม่คุ้มค่ากับการลงทุน อย่างน้อย ๆ ขอไร่ละ 2,000 บาทก็ยังดี