อุตฯท่องเที่ยวมั่นใจทัวริสต์ทะลุเป้า 12 ล้านคน
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตามเป้า 12 ล้านคน พร้อมผนึกภาครัฐเสริมศักยภาพระเบียงเศรษฐกิจ 5 ภูมิภาค รับการเติบโตตลาดนักเดินทางชายแดน
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ระบุ ประเมินว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้จะได้ถึง 12 ล้านคนภายในสิ้นปี ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ หลังจากครึ่งปีแรกได้มาแล้วถึง 6 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจุดสมดุลของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ต้องได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 30-40% ของฐาน 40 ล้านคนเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 หรือคิดเป็น 12-16 ล้านคนเท่านั้น จึงจะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยู่รอด
โดยคาดการณ์ว่าเดือน ก.ย.นี้ จะมีมากกว่า 1 ล้านคน แม้จะมีอุปสรรคบ้าง เช่น น้ำท่วม แต่เป็นปัญหาระยะสั้นที่ไม่ส่งผลกระทบมากนัก ขณะที่ไตรมาส 4 เดือน ต.ค.-ธ.ค. ซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน
ทั้งนี้ โจทย์สำคัญของการทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือเที่ยวบินปัจจุบันที่กลับมาบินปกติเพียง 30% สทท.ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนท่องเที่ยวยังต้องการงบประมาณจากภาครัฐในการบูสเตอร์ช็อต (Booster Shot) หรือฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ภาคท่องเที่ยว ส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มความถี่เที่ยวบินทั้งเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมมือการท่องเที่ยวและไมซ์เชื่อมโยงศักยภาพระเบียงเศรษฐกิจชายแดนไทย หรือ NESTEC เป็นเวทีสำหรับประชุมหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์จาก 28 จังหวัดชายแดนทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันกำหนดแผนงานและแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจชายแดน นำเสนอเป็นข้อมูลต่อรัฐบาล เพื่อส่งเสริม ปลดล๊อกปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ บนเส้นทางเชื่อมโยง เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับการเดินทางจำนวนมากที่จะเข้ามาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมไมซ์ในพื้นที่ 28 จังหวัดชายแดนและจังหวัดบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ 5 ภูมิภาคในอนาคต
สำหรับจำนวนนักเดินทางไมซ์ในเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 108,556 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ นักเดินทางจากอินเดีย จำนวน 44,960 คน มาเลเชีย 16,463 คน สิงคโปร์ 6,398 คน ลาว 3,654 คน และ เวียดนาม 3,088 คน จากตัวเลขชี้ให้เห็นการเดินทางเข้ามายังชายแดน
ของนักเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านรอบทิศที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ต้องตื่นตัวในการเตรียมการบริหารจัดการ และเตรียมความพร้อมรองรับคลื่นนักเดินทางจำนวนมากที่จะเข้ามาอีกในอนาคต