
17 ธันวาคม 2568 สถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มจากบ่ายวันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 10 แล้ว
ล่าสุด ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนที่ผ่านมา ว่า กัมพูชายังคงเปิดการปะทะต่อเนื่องตลอดแนว ระดมอาวุธยิงสนับสนุนต่างๆ เข้าไปยังฝั่งไทย โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า เราได้ผลักดันและประสบความสําเร็จป้องกันการรุกราน
นอกจากนี้ กัมพูชายังถล่ม เนิน 350 บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ ทําให้กําลังพลเสียชีวิต 2 นาย แต่เรายังสามารถปกป้องพื้นที่ มีการปฏิบัติการที่มีนัยสําคัญ
ในส่วนของบ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พื้นที่กองกําลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ยังมีการปะทะต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา กัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ แต่เราสามารถค้ํายันพื้นที่และผลักดันออกไป
ส่วน จ.ตราด แม้ได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เราพยายามลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด แต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังระดมการยิงต่อเนื่องตลอดแนว จ.ตราด ยังได้รับผลกระทบ และต้องชื่นชมกองทัพเรือ ที่ยังรับมือกับการรุกรานของกองทัพกัมพูชาได้มีประสิทธิภาพ
ด้าน พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมถึงความยาก ในการสถาปนาพื้นที่ความมั่นคงปราสาทตาควาย ว่า ด้วยสภาพพื้นที่การรบมีความยากลําบาก เนื่องจากมีพื้นที่สูง เนิน 350 ที่ทหารกัมพูชายึดเอาไว้ก่อนหน้านี้ และทำเป็นที่มั่นแข็งแรง การที่ทหารไทยจะยึดประสาทตาควายได้นั้น เนิน 350 เป็นจุดยุทธภูมิสําคัญ ตอนนี้ในบริเวณดังกล่าวสู้รบอย่างหนัก เป็นพื้นที่ช่วงชิงอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการ ส่งผลให้ทหารสละชีพ 2 นาย ตามที่เป็นข่าว
ส่วนการนำร่างทหารสละชีพ ออกจากพื้นที่ ทางกองทัพภาคที่ 2 กําลังตรวจสอบ ซึ่งความยากลําบาก สถานการณ์การรบในบริเวณนั้นยังไม่จบ กําลังเข้มข้น พร้อมปฏิเสธกรณีทหารไทยถูกจับกุม ว่าไม่มีการรายงานเข้ามา
พันเอก ริชฌา ย้ําอีกว่า การรบที่ยืดเยื้อ ฝ่ายไทยทำเพื่อการป้องกันตนเองบนพื้นฐานการโจมตีเข้ามา เราไม่ได้เป็นฝ่ายรุกเข้าไป เพราะฉะนั้นหากกัมพูชายังมีการโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยต้องป้องกันตนเอง ซึ่งมีหลายรูปแบบ พื้นที่ที่เราต้องยึดคืน ซึ่งเป็นอธิปไตยของไทยเอง เพราะทําให้กัมพูชาได้เปรียบเข้ามาโจมตี ไม่เพียงแต่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต ครอบคลุมถึงประชาชน หากยังโจมตีเข้ามาเราก็ต้องป้องกันตัวเอง
ส่วนขีปนาวุธที่ยึดได้ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เราต้องนำมาทําให้เป็นประโยชน์ที่สุด ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเสริมว่า มีกระบวนการมีขั้นตอนการดําเนินการอยู่แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ดําเนินการ เราอาจไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ได้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้แจง เรื่องการใช้กําลังป้องกันตัวเอง มีหลายระดับ ทั้งระดับบุคคล นายทหาร สามารถดําเนินการได้ ตลอดจนถึงระดับหน่วยกองกําลัง ปัจจุบันไทยใช้กําลังเพื่อป้องกันตนเองในระดับชาติ โดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ ยึด 4 ข้อ
1.การใช้กําลังทหารต้องตอบโต้การโจมตีด้วยอาวุธของอีกฝ่าย เพื่อระงับยับยั้งการโจมตีที่เกิดขึ้น หรือกระชั้นชิดใกล้เข้ามา
2.ใช้กำลังทหารต้องมีความจําเป็น ไม่มีหนทางอื่นที่สามารถหลีกเลี่ยง
3.การใช้กําลังทหารต้องได้สัดส่วนเหมาะสมกับภัยคุกคามที่เกิดจากการโจมตี
4.การแจ้งคณะมนตรีความมั่นคง ของคณะองค์การสหประชาชาติ
ทั้งนี้ การใช้อาวุธ ยุทธวิธี มีหลักการพื้นฐานที่สําคัญ อาทิ การใช้กําลังทหาร ความจําเป็นทางการทหาร หลักมนุษยธรรม หลักการแบ่งแยกระหว่างพลเรือน กับพลรบ