
9 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว กกล.บูรพา เข้าดำเนินกลยุทธ์ต่อที่หมายเป็นวันที่ 2 โดยในพื้นที่ บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้ยึดและควบคุมพื้นที่อธิปไตยของไทย บ้านหนองหญ้าแก้วเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อ 8 ธ.ค. 68 ซึ่งในห้วงเช้าวันนี้ได้เข้าเคลียร์ พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชามีการเตรียมการจะใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในพื้นที่ โดยตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ยังตรวจพบระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ชุด โดยชุดที่ 1 ประกอบด้วยกระสุน RPG2 3 นัด และ ค.60 1 นัด (สภาพพร้อมใช้งาน) ชุดที่ 2 ประกอบด้วยกระสุน ปรส.82 และ Dynamite (สภาพพร้อมใช้งาน) ได้ดำเนินการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อย
ส่วนพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย โดยฝ่ายกัมพูชามีการต้านทานอย่างหนัก ด้วยการยิงจากอาวุธชนิดต่างๆ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 เข้ามายังหมู่บ้านที่ชาวกัมพูชาเคยอยู่อาศัย ก่อนเกิดสถานการณ์ความขัดแย้ง
สำหรับพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่ การใช้รถถังยิงทำลายบ่อนกาสิโนในฝั่งกัมพูชา ที่อยู่ติดแนวชายแดน ตรงข้ามจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งยิงปืนกล และอาวุธยิงสนับสนุนต่างๆ รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมยุทโธปกรณ์ ที่จะใช้ปฏิบัติต่อฝ่ายไทย ซึ่งเมื่อเวลา 16.00 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ได้บางส่วน พร้อมกับได้ทำการวางลวดหนามตลอดแนวที่ควบคุมได้ไว้ในเบื้องต้น
สำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 8 ธ.ค. 68 จำนวน 5 นาย โดยมีกำลังพลมีอาการสาหัส 1 นาย เข้ารับการรักษา รพ.วัฒนานคร และ รพ.โคกสูง ปัจจุบันทุกนายมีอาการปลอดภัย และในวันนี้ได้รับรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 นาย คือ ส.ต.ต.กำพล แสงจันทร์สี สังกัด ร้อย.ตชด.125 ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่จุดตรวจที่ 14 อ.โคกสูง จากการถูกสะเก็ดระเบิดข้างท้องด้านซ้าย เข้ารับการรักษา ที่ รพ.โคกสูง ปัจจุบันอาการปลอดภัย
นอกจากนี้ ได้รับรายงานพบลูกกระสุนปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ตกใส่บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ บ้านโคกทหาร ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา และพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ให้บ้านเรือนประชาชน เสาไฟฟ้า และถนน ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด โดยในวันนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ได้มีการอพยพแล้ว จำนวน 180,683 คน คิดเป็นร้อยละ 83 ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง, อ.โคกสูง, อ.วังน้ำเย็น, อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วัฒนานคร มีประชาชนเข้าพักอาศัย รวม 15,560 คน
นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 1 โดยศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มทบ. 19, ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จ.สระแก้ว ร่วมกับส่วนราชการและประชาชนจิตอาสา ร่วมกันดูแลประชาชนภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ จังหวัดสระแก้ว ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ จัดตั้งโรงครัวพระราชทานปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.เมือง จ.สระแก้ว
กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา, ตำรวจตระเวนชายแดน, ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมและมีกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย และขอยืนยันว่าจะยืนหยัดปฏิบัติงานตามภารกิจ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินการภายใต้กฎการปะทะและสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะยุติเพื่ออธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสถานการณ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 17.00 น. ของวันนี้ ทหารกัมพูชาโจมตีฝ่ายไทยอย่างหนัก การสู้รบ ขยายวงกว้างและมีความรุนแรงด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ประมาณ 125 ครั้ง กระสุนลูกจรวด 5,000 นัด โดรนพลีชีพหรือโดรน FPV จำนวน 33 พื้นที่ ใส่ฐานและที่มั่นของฝ่ายไทยในหลายแนวรบ โดยเฉพาะในพื้นที่ ช่องอานม้า และช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี , เถียงตาม็อก จังหวัดศรีสะเกษ และช่องคนา ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยอาวุธอย่างได้สัดส่วน
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อยู่ตลอดแนวการวางกำลัง จากผลการปะทะกันอย่างหนักตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้สูญเสียนักรบกล้าสละชีพเพื่อพิทักษ์ชาติไปจำนวน 4 นาย บาดเจ็บรวม 68 นาย ฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต 61 นาย บาดเจ็บยังประเมินไม่ได้
กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง
ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการรุกคืบผลักดันกำลังทหารกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยยังคงพยายามเข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบ
ขณะที่ทหารฝ่ายกัมพูชา ได้ระดมใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามายังบริเวณพื้นที่ตัวปราสาท และพื้นที่โดยรอบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังพลของฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ และทำให้ตัวปราสาทและพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมการบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายกัมพูชาในห้วงที่ผ่านมา จึงคาดว่ากัมพูชาจะกล่าวอ้างว่า ความเสียหายดังกล่าวเกิดจากการปฏิบัติของฝ่ายไทย