
9 ธันวาคม 2568 นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หนึ่งใน 3 เสาหลัก คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือ กกร. เปิดเผยกับเนชั่นออนไลน์ ก่อนการประชุม กกร.ว่า สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย กำลังเผชิญกับปัญหา 2 ปัจจัยหลักคือ
1.วิกฤตอุทกภัยในภาคใต้ที่รุนแรง กับ 2.แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปีหน้า โดยเฉพาะมหาอุทกภัยใหญ่ในภาคใต้รอบนี้ ถือเป็นมหันตภัย หรือภัยพิบัติร้ายแรงระดับ 4 เทียบเคียงสึนามิ เมื่อปี 2547 เลยทีเดียว สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ต้องซ่อมแซมฟื้นฟูมูลค่านับแสนล้านบาท สูญเสียรายได้หมุนเวียน 20,000 ถึง 30,000 ล้าน คิดเป็น 0.1 - 0.2 ของ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เล็กๆ แต่ส่งผลต่อเนื่องทำให้ GDP ของไทยในปีนี้ขยายตัวได้แค่ 2% อันจะก่อผลกระทบเพิ่มเติม ที่ต้องสูญเสียรายได้อีกประมาณ 90,000 ล้านบาท ซ้ำร้ายจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้า คือปี 2554 ชะลอตัวลงจากปีนี้อีก ทำให้คาดการณ์ GDP ปีหน้าว่าจะลดต่ำลง เหลือราวๆ 1.6 -2% นี่คือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายอาจจะคาดไม่ถึงจากมหาอุทกภัยภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จ.สงขลา
นอกจากนี้ ประเทศไทยเผชิญปัญหาใหญ่ๆ ต่อเนื่องกันหลายเรื่อง ล่าสุดคือการสู้รบรอบใหม่กับกัมพูชา ขณะที่ปัญหาภัยพิบัติหาดใหญ่ และ 9 จังหวัดภาคใต้เพิ่งจะจางหายไปจากหน้าสื่อ