
11 ตุลาคม 2568 ความคืบหน้าสถานการณ์ที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว หลังผ่านกำหนดที่ให้มีการอพยพชาวกัมพูชาที่บุกรุกออกจากพื้นที่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามพบว่า ทางฝั่งกัมพูชายังคงนิ่งเฉย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งการบังคับใช้กฏหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และกฏหมายการหลบหนีเข้าเมือง ของทางจังหวัดสระเเก้ว ขณะที่ทางการไทยเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 15.00 น. ในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา จ.สระแก้ว ดังนี้
พื้นที่บ้านหนองจาน ฝ่ายไทย มีมวลชนเข้าพื้นที่ พ่อค้าแม่ค้ารวมทั้งนักข่าว ประมาณ 200 คน โดยในห้วงเวลา 10.00 น. นายวีระ สมความคิด ร่วมแสดงกิจกรรมแสดงออกถึงความรักชาติ หวงแหนอธิปไตยไทยร่วมกับประชาชน ได้ชี้แจงถึงจุดยืนที่จะเข้าไปผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกในพื้นที่ โดยจะให้เวลาเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ได้นำคอนเทนเนอร์ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อให้ กกล.บูรพา นำไปใช้ประโยชน์ทางยุทธการ
ส่วนฝ่ายกัมพูชา พบความเคลื่อนไหวประชาชน สื่อมวลชน ทหาร และตำรวจกัมพูชา คอยติดตามความเคลื่อนไหว การปฎิบัติของฝ่ายไทย ประมาณ 30-40 คน สถานการณ์ทั่วไปเป็นปกติ การปฏิบัติการที่สำคัญ กกล.บรูพา โดย ฉก.อรัญประเทศ ฉก.ตาพระยา ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารพราน และชุดควบคุมฝูง ยังคงตรึงกำลังเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก
พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายไทย มีมวลชนจำนวนหนึ่งในพื้นที่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ส่วนฝ่ายกัมพูชา พบความเคลื่อนไหวประชาชน และมวลชน ผู้สื่อข่าว จำนวนประมาณ 150-200 คน บริเวณรั้วลวดหนาม และกระจายรอบหมู่บ้านเปรยจัน โดยมี ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการ คอยอำนวยความสะดวก และเชิญชวนนักข่าวในประเทศ และต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมปลุกระดมบิดเบือน ตลอดจนเรียกร้องให้ปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายกลับประเทศ สถานการณ์ทั่วไปเป็นปกติ
ปฏิบัติการที่สำคัญ หน่วยได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ โดยจัดควบคุมและรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เเละจัดชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด 7 ชุด พร้อมอุปกรณ์ตรวจค้นเเละรถถากถางหุ้มเกราะ D5 ดำเนินการตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่า ตกค้างในพื้นที่ปฏิบัติการฝ่ายไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วเพิ่มเติม ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 วัน เพื่อดำเนินการให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมด
นอกจากนี้ กกล.บูรพา โดยฉก.อรัญประเทศ ฉก.ตาพระยา ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารพราน และชุดควบคุมฝูง ยังคงตรึงกำลังเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันจะดำเนินการเด็ดขาด กับพื้นที่ที่มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ในห้วงเวลาที่ได้เปรียบโดยคำนึงถึงผลสำเร็จทางยุทธวิธี และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ยืนหยัดทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 มีความห่วงใยกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ได้สั่งการให้หน่วยดำเนินการสำรวจ และช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ มีบุพการีที่เจ็บป่วยไม่มีผู้ดูแล ครอบครัวอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยหรือภัยพิบัติอื่นๆ เป็นต้น เพื่อลดความกังวลใจของกำลังพลในทุกมิติ ให้มีพร้อมปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ
บรรยากาศที่บ้านเปรยจาน บนดินเเดน บ้านหนองหญ้าเเก้ว จากภาพมุมสูง การบินตรวจการของกองกำลังบูรพา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ไม่พบว่า วันนี้มีการมารวมตัวของชาวกัมพูชา ในลักษณะการชุมนุม พบเห็นประชาชนที่เดินในหมู่บ้าน จำนวนไม่มาก เช่นเดียวกับบริเวณเเนวลวดหนามเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ไม่มีการรวมตัวกัน
ส่วนการบินตรวจการบริเวณบ้านโจกเจย ดินเเดนของบ้านหนองจาน ใกล้หลักเขตเเดนที่ 46 บริเวณไร่อ้อย ที่กัมพูชาสร้างเพลิงที่พัก ยังคงมีประชาชนเฝ้าเวรยาม เเต่ไม่พบมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่เหมือนเเต่ก่อน
สำหรับภารกิจของกองทัพ หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ยังคงเดินหน้า ขยายพื้นที่การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าเเก้ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนแนวชายแดน พื้นที่เสี่ยงภัย ให้ปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ชาวบ้านกลับเข้าใช้พื้นที่ทำการเกษตร หลังเมื่อวาน มีการถากถางพื้นที่ปลอดภัย จากระเบิดที่ตกค้างได้พื้นที่เพิ่ม 38,256 ตารางเมตร หรือ 25 ไร่
สำหรับบรรยากาศบ้านหนองจาน บริเวณทางเข้าจุดตรวจการณ์ ถนนศรีเพ็ญ ตลอดทั้งวันมีประชาชน ชาวสระเเก้ว อำเภอต่างๆ เเละชาวบ้านจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาตั้งครัว ทำอาหาร น้ำดื่ม ต้มส้มตำ ทอดกล้วยทอด เเจกจ่ายให้กับทหาร เเละ ประชาชน รวมถึงบรรดาอินฟูเอ็นเซอร์ชาวต่างชาติ ร่วมส่งกำลังใจให้กำลังใจทหารไทย สร้างสีสันให้กับผู้ที่เดินทางมาร่วมตัวกันทวงคืนผืนเเผ่นดิน เเละยังได้ร่วมกันร้องเพลงปลุกใจ รวมถึงตะโกน ขับไล่ให้ชาวกัมพูชา ที่บุกรุกบ้านหนองจานออกไป ร่วมกันตะโกนที่นี่เเผ่นดินไทย
ชาวบ้าน อำเภอตาพระยา ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจทหาร เเละเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ชายเเดน เปิดเผยว่า สามีของเธอเป็น ตำรวจตระเวนชายเเดน เเต่เหยียบกับระเบิดปิ่นโต 2 ลูกซ้อน เสียชีวิตบนถนนศรีเพ็ญ เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เธอจึงนำธงชาติที่เคยคลุมร่างสามี มาโบกสะบัด เพื่อรำลึกถึงสามีที่รับใช้ชายเเดน วันนี้จึงมาเเสดงพลังในการทวงคืนเเผ่นดิน หลังพ้นเส้นตาย ผลักดันกัมพูชาไม่ได้ บอกว่ารู้สึกผิดหวัง เเต่ยังคงไม่ให้กำลังใจต่อไป ในการทวงผืนเเผ่นดินไทยกลับคืนมา ยังเชื่อมั่นในทหาร
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา กัน จอมพลัง และทีมงานได้เคลื่อนตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 4 หลัง จากมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ เข้าพื้นที่บ้านหนองจาน เพื่อเตรียมปฏิบัติการทำภารกิจลับ ทำกำแพงกั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน
กัน จอมพลัง เขียนข้อข้อลงบนตู้คอนเทนเนอร์ "ขะเเมควรออกไป พ่อเเม่ควรสอน ให้รู้จัก บุญคุณด้วย ขณะที่ เล็ก ฝันดี เขียนข้อความว่า แผ่นดินไทย รักประเทศไทย โดยคอนเทนเนอร์ที่จะไปใช้ทำกำเเพงกันเเดนไทยกัมพูชา ยังจะให้ประชาชนได้เขียนข้อความให้กำลังใจทหารเช่นกัน
"กัน จอมพลัง" บอกว่า นอกจากปฏิบัติการส่งเสียงความหลอนในหมู่บ้าน โจกเจย เมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้จะยังมีปฏิบัติการอื่นร่วมด้วย พร้อมเตือนชาวกัมพูชาว่า วันดีคืนดี นอนอยู่ในบ้าน อาจจะมีคนไปหาถึงที่ ตอนนี้ยังต้องการรถเครื่องเสียง รถเเห่อีก 2 คัน เพื่อนำเสริมความดังเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนกรณีที่กัมพูชาประณามไทยว่า การเปิดเสียงหลอกหลอน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กัน จอมพลัง บอกว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องประณาม เพราะกัมพูชาไม่เข้าใจถึงหลักมนุษ์ธรรมจริง ช่วยตามหลักมนุษย์ธรรม แต่กลับไม่สอน กลับอ้างว่าอยู่มานาน ควรย้อนถามตัวเองว่า กัมพูชามีมนุษย์ธรรมไหม
ช่วงเย็นที่ผ่านมารถเครื่องขยายเสียง 2 คัน ได้เข้าพื้นที่นำมาเสริม เพิ่มความหลอน ให้กับหมู่บ้านเปรยจาน บ้านหนองหญ้าเเก้ว ในคืนวันนี้ยังเตรียมเปิดสารคดี ในยุคสงครามเขมรเเดง ฆ่าล่าเผ่าพันธ์ จนทำให้ชาวกัมพูชาต้องอพยพออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิง
ชาวบ้านหนองจานฝั่งไทย บอกว่า ได้ยินเครื่องเสียง ที่เปิดเสียงหลอน เสียงหมาหอน เช่นกัน แต่ฝั่งไทยดังไม่มาก แม้จะไม่ได้ทำให้ชาวกัมพูชาเกิดความหวาดกลัว แต่มันจะส่งผลทำให้ชาวบ้านไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน เนื่องจากเครื่องเสียง ทำให้เกิดความรำคาญ เกิดความอ่อนเพลียไม่ได้หลับได้นอน
สำหรับปฏิบัติการกล่าว มีรายงานว่า ได้รับการอนุญาติ ทำในนามของมูลนิธิ กัน จอมพลัง เป็นหนึ่งในมาตรการปฏิบัติการกดดัน เพือขับไล่ชาวกัมพูชาที่บุกรุก ให้ออกจากบ้านหนองจาน เเละบ้านหนองหญ้าเเก้ว ซึ่งเป็นการหวังผลทางจิตวิทยา เป็นมาตรการเบาไปหาหนัก