svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด "ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ" เหยื่อสูญ 5.9 ล้าน

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด "ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ" ผ่านออนไลน์ อ้างผลตอบแทนสูง 5-10 เปอร์เซ็นต์ แถมประกันเงินทุนคืน 100 เปอร์เซ็นต์ เหยื่อสูญเงินกว่า 5.9 ล้านบาท รวมตัวแจ้งความ

22 พฤษภาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวิฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา (ตามหมายจับ) 

ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

 

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด \"ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ\" เหยื่อสูญ 5.9 ล้าน

 

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด \"ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ\" เหยื่อสูญ 5.9 ล้าน

 

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด \"ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ\" เหยื่อสูญ 5.9 ล้าน

 

รวบ 2 ไลฟ์โค้ช หลอกลงทุนเทรด \"ทองคำ-สกุลเงินต่างประเทศ\" เหยื่อสูญ 5.9 ล้าน

 

 

 

พฤติการณ์ ด้วยเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2567  ได้มีกลุ่มผู้เสียหาย รวม 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. กรณีถูกบุคคลใช้ชื่อ "โค้ชพีช" หรือ "อาจารย์พีช" และ "โค้ชเบญ" อ้างตนเป็นโค้ชและนักลงทุนที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จจากการลงทุนทางโลกออนไลน์ ใช้ช่องทางเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ "Diamond Trader" (ไดมอน เทรดเดอร์) ไลฟ์ชักชวนประชาชน ลงทุนเทรดทองคำ, ซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศผ่านตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (FOREX) 

 

โดยเมื่อมีผู้สนใจจะชักชวนเข้ากลุ่มไลน์โอเพนแชท ชื่อกลุ่ม “VIP ห้องสอนเทรด Stock Tfex GOLD BTC CURR FOREX” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2,000 คน จากนั้นจะมีการ ขายคอร์ส สอนเทรด, จัดงานสัมมนา ตามโรงแรมและสถานที่ต่างๆ เพื่อชักชวนระดมทุนโดยการันตีเงินทุน หรือประกันเงินทุนคืน 100 เปอร์เซ็นต์ และเสนอให้ผลตอบแทนสูง 5-10 เปอร์เซ็นต์  

 

โดยเมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อ ลงทุนฝากเทรดไปในช่วงแรก มีการจ่ายผลตอบแทนจริง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง ต่อมาผู้ต้องหาได้มีการหยุดจ่ายผลตอบแทน

โดยอ้างว่าบัญชีเทรดติดลบ และถ้าถอนเงินลงทุนไป จะต้องจ่ายภาษี 30-35 เปอร์เซ็นต์ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายจำเป็นต้องฝากเทรดต่อไป

ภายหลังเมื่อผู้เสียหายติดตามทวงถามเพื่อถอนเงินลงทุนคืนกลับได้รับการบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถถอนเงินลงทุนคืนได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวมกว่า 5,900,000 บาท 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่าภายหลังจากรับโอนเงินลงทุนมาจากผู้เสียหายแล้ว จะมีการโอนเงินไปมาระหว่างบัญชีธนาคารกลุ่มผู้ต้องหา โดยบางส่วนนำมาหมุนเวียนจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่นๆ แต่ไม่พบการโอนเงินไปลงทุนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด   

 

 

ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และดำเนินการจับกุมพร้อมทั้งตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี รวม 4 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

 

ทั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน ในปัจจุบัน พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพจำนวนมาก อาศัยความนิยมของการลงทุนผ่านระบบดิจิทัล เป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชน 

โดยอำพรางเจตนาฉ้อโกงภายใต้รูปแบบของ “การเทรดออนไลน์” โดยใช้วิธีการโฆษณาเชิญชวนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ที่ออกแบบให้ดูน่าเชื่อถือ โดยมีลักษณะร่วมที่ควรระมัดระวัง ได้แก่ การรับประกันผลตอบแทนสูงผิดปกติ, 

การอ้างว่าไม่มีความเสี่ยงในการลงทุน, การแสดงผลกำไรปลอมผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์,การชักชวนให้ผู้อื่นร่วมลงทุน เพื่อรับค่าตอบแทนในลักษณะ “แชร์ลูกโซ่” พี่น้องประชาชนควรพึงระวังและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะกรณีที่มีการแสดงผลตอบแทนสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล