
2 พฤษภาคม 2568 ความคืบหน้ากรณี ที่มีหญิงสาวออกมาร้องเรียนว่า มีวัตถุคล้ายก้อนคอนกรีตขนาดใหญ่ ตกจากสะพานลอย บริเวณถนนบางนา-ตราด จนทำให้กระจกหน้ารถของตนได้รับความเสียหายนั้น
ซึ่งต่อมา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย EXAT ได้ชี้แจงว่า จากการนำทีมวิศวกร ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแล้วพบว่า โครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถีของ กทพ. มิได้มีความเสียหาย หรือร่องรอยกะเทาะของคอนกรีตแต่อย่างใด
อีกทั้ง กทพ.ได้ประสานกับแขวงทางหลวงสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจาก การมีผู้โยนก้อนปูนลงมาจากสะพานลอย จนทำให้รถของผู้ใช้ทางที่สัญจรผ่านมาพอดี ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามผู้กระทำการดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมชายที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยหลังเกิดเหตุ น.ส.อรสินี ผู้เสียหายได้แจ้งความ ที่ สน.บางนา เหตุคนร้ายก่อเหตุ พยายามฆ่า (ใช้ก้อนปูนปารถยนต์) คดีที่ 353/2568 เหตุเกิด บริเวณ ถ.บางนา-ตราด (ขาเข้า) ช่องทางด่วน แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 15.50 น.
โดยคนร้ายได้ไปโยนหินใส่ กระจกรถยนต์ ยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน ฬ 9594 ของ น.ส.อรสินี จนเสียหาย
ศาลอาญาพระโขนง ได้ออกมาหมายจับที่ จ.307/2568 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายชลัด แซ่ตั้ง อายุ 45 ปี
สำหรับพฤติการณ์ คือ ช่วงเย็นวันที่ 29 เม.ย.68 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางนา ว่า ขณะขับรถยนต์มาตามถนนบางนา-ตราด ช่องทางด่วนมุ่งนาบางนา เมื่อถึงบริเวณตรงข้าม รพ.ไทยนครินทร์ ได้มีก้อนปูนตกใส่กระจกหน้ารถได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ สวมหน้ากากอนามัย เดินขึ้นสะพายลอยฝั่งงเคหะบางนา (ซ.บางนา-ตราด 46) ถือถุงหิ้วภายในมีก้อนปูน จากนั้น ได้หยิบก้อนปูน ขว้างลงมาจากสะพานลอย ทำให้ถูกรถยนต์ผู้เสียหาย ขับผ่าน จากนั้นคนร้ายหลบหนีขึ้นรถเมล์หลบหนีไป
15.15 น. คนร้ายเดินออกจากซอยไทยสมุทร
15.15 น. คนร้ายเข้า เซเว่น สาขาซอยหมู่บ้านไทยสมุทร
15.20 น. คนร้ายขึ้นรถ 2 แถว หน้าปากซอยหมู่บ้านไทยสมุทร
15.27 น. คนร้ายลงจากรถ 2 แถว หน้าปากซอยบางนา-ตราด 46
15.37 น. คนร้ายก่อเหตุปาหินก้อนที่ 1
15.39 น. คนร้ายปาหินก้อนที่ 2
15.40 น. คนร้ายเดินลงสะพานลอยฝั่ง Ample
15.41น. คนร้ายเดินผ่าน Ample
15.42 น. คนร้ายเดินขึ้นรถมินิบัส สีส้ม
ต่อมาวันนี้ (2 พ.ค.) ได้ทำการสืบสวนและได้รับแจ้งจากพลเมืองดี จนกระทั่งพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือนายชลัด ได้หลบหนีไปนอนอยู่หน้าร้านขายของ บริเวณแยกถนนนวมินทร์ ตัดถนนประเสริฐ มนูญกิจ ตำรวจจึงได้แสดงตัวและสอบถาม รับว่าตามภาพข้อมูล กล้องวงจรปิดเป็นตนเอง และเป็นผู้ก่อเหตุใช้ก้อนปูนปามาจากบนสะพานที่เกิดเหตุจริง เบื้องต้น ตำรวจจึงคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สน.บางนา ตามขั้นตอน
หลังคุมตัวมาที่ สน.บางนา พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางร่วมสอบปากคำ ระหว่างควบคุมตัว นายชลัดยอมรับว่า ก่อเหตุจริง เพราะดื่มเหล้าขาวขนาดเท่าขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้ขาดสติ ประกอบกับมีอาการเครียดที่หาเงินไม่ได้ จะระบายด้วยการปาก้อนปูนใส่รถประชาชน
ส่วนก้อนหินที่หยิบมาก็เก็บได้จากข้างทาง ไม่ได้เตรียมการมาแต่แรก โดยประมาณบ่าย 3 ของวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เดินทางออกจากซอยไทยสมุทร ไปขึ้นรถสองแถวที่หน้าปากซอย แล้วไปลงที่ปากซอยบางนา-ตราด 46 จากนั้นก็ถือถุงบรรจุก้อนปูน ขึ้นไปบนสะพานลอยฝั่งเคหะบางนา โดยสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และปาหินลงมาใส่รถประชาชน 2 ก้อน และโดนรถประชาชนทั้ง 2 ก้อน ก่อนจะเดินลงจากสะพานลอยและขึ้นรถมินิบัส สีส้มหลบหนีไป และไปก่อเหตุอีกครั้งในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ที่สะพานลอยหน้าห้างเมกะ บางนา และโยนหินใส่รถประชาชนไปอีก 2 ก้อน ก่อนจะหลบหนีกลับมาที่ย่านเสรีไทย จนกระทั่งถูกจับกุม
ระหว่างสอบปากคำ เจ้าตัวยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ตำรวจพบประวัติเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติด 10 ครั้ง และลักขโมยของอีก 2 ครั้ง การถูกจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 และอ้างว่า ไม่เคยก่อเหตุปาหินใส่รถประชาชนมาก่อน และไม่ได้ลอกเลียนแบบเหตุการณ์ที่ถนนพระราม 2 เพราะไม่ทีวีดูข่าว และก็ไม่มีเงิน เป็นเพียงคนเร่ร่อน พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายด้วย
ขณะที่ น.ส.อรสินี อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ได้ขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และยืนยันว่า ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่ตั้งใจ เพราะจากกล้องหน้ารถที่จับภาพไว้ได้ พบว่าผู้ต้องหามีการเล็งหินก่อนปา
เบื้องต้น พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีร้ายแรง พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหา "พยายามฆ่า" ซึ่งจะทำให้ผู้ต้องหาถูกจำคุกหลายปี โดยจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนงในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ค.นี้