15 มีนาคม 2568 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 จ.สงขลา พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์ ธนานันทกุล ผบก.ตชด.ภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดทั้งเฮโรอีนและยาบ้า จำนวนมหาศาล มากที่สุดครั้งหนึ่งที่จับกุมได้ในพื้นที่ จ.สงขลาโดยสามารถยึดของกลางเป็นเฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน 596 แท่ง น้ำหนักประมาณ 208.6 กิโลกรัม มูลค่า89,400,000 ล้านบาท และยาบ้า 2,714,000 เม็ด มูลค่า 28,000,000 บาท มูลค่ารวมกันถึง 117,400,000 บาท ซึ่งทั้งหมดถูกตรวจพบในพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สำหรับเบื้องหลังการจับกุมเฮโรอีนและยาบ้าบิ๊กล๊อตในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค4 ,เจ้าหน้าที่กองกำกับการตำรวจชายแดนที่43,ตำรวจน้ำสงขลา,กองทัพเรือ,กองทัพบก,ฝ่ายปกครอง และปปส.ภาค9 ทำการจับกุมสยมภู หรือ(เกตุ) ติบุญ อายุ 34 ปี ชาวต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ นายวิโรจน์หรือ(แบงค์ ) ทองดี อายุ 24 ปี ชาว ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมเฮโรอีนและยาบ้าทั้งหมด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า โคโลน่า อัลติส สีบรอนซ์เงิน รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ I 125 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังจากที่เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้สืบทราบว่ามีการลำเลียงเฮโรอีนและยาบ้า มาไว้ที่ขนำในสวนยางพาราพื้นที่ หมู่8 บ้านท่าหมอไชย ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไปซุ่มรอ จนกระทั่งเวลา 3ทุ่ม นายสยมภู ได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่ขนำ และไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปภายในขนำ ชุดจับกุมจึงเข้าล๊อกตัวเอาไว้ และตรวจค้นในขนำพบยาบ้าและเฮโรอีน ซึ่งบรรจุอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์ตั้งวางไว้ในขนำ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ให้การว่าเป็นของ นายบอส หรือ นายต้อม และอยู่ระหว่างรอกระจายให้กับลูกค้าตามคำสั่งของเจ้าของยาเสพติด ระหว่างนั้น นายวิโรจน์ หรือแบงค์ ทองดี ผู้ต้องหาที่2 ได้โทรศัพท์มาหานายสยมภู ทางไลน์ชื่อ "นินจารันหาโร่" ว่ายาเสพติดที่สั่งไว้3 กระสอบเรียบร้อยหรือยัง กำลังจะเข้าไปเอา เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนไปซุ่มสังเกตการณ์ที่จุดนัดรับ
ต่อมานายวิโรจน์ ได้ขับรถเก๋งมาจอด และยกยาเสพติดใส่กระโปรงท้ายรถโดยไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ดักรออยูจึงเข้าล๊อกตัวได้อีกคน
จากการสอบถาม นายสยมภู ให้ยอมรับว่าได้รับค่าจ้างในการให้ที่พักยาจากนายบอส หรือนายต้อม ครั้งละ 2,000-3,000 บาท ที่ต้องทำเพราะว่าอาชีพกรีดยางมีรายได้ไม่พอและยังมีลูกที่เพิ่งคลอด จึงจำเป็นต้องทำ แต่แค่รับฝากไว้เท่านั้น โดยยาบ้าและเฮโรอีนทั้งหมดทราบแค่ว่าจะมีลูกค้า 4 เจ้าที่จะมารับตามจุดนัดหมายที่นำไปวางไว้
ส่วนนายวิโรจน์ บอกว่าได้ค่าจ้างเพื่อนำยาไปส่งยังที่ จ.ปัตตานี ครั้งนี้40,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีฐาน "มียาเสพติดให้ไทษประเภท 1 (แมทแอม เฟตามีนหรือยาบ้า ) โดยมีไว้เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทบต่อความ มั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน และจะเร่งขยายผลไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดแกงค์นี้และเส้นทางทางที่ใช้ลำเลียงซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ระดับประเทศ