ราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง "ผู้กำกับโจ้" ย้ำต่างขังเดี่ยว เข้มงวดดุดัน

11 มีนาคม 2568 กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง อดีต "ผู้กำกับโจ้" ในแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม โดย พันตำรวจโทเชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้นำสื่อมวลชนเข้าไปในเรือนจำกลางคลองเปรม พาดูห้องขังแยกการควบคุมในแดน 5 และ ห้องขังหมายเลข 50 จุดที่อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

จุดแรกที่พาสื่อมวลชนไปดู คือ บริเวณตึกนอนในแดน 5 ซึ่งมีห้องสำหรับแยกการควบคุมอยู่ โดยห้องแยกการควบคุมหมายเลข 50 ที่อดีตผู้กำกับโจ้เคยถูกคุมขังอยู่นั้น อยู่บริเวณชั้น 1 กรมราชทัณฑ์ได้เปิดให้สื่อมวลชนดูด้านในห้อง แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไป เพราะยังกั้นเป็นพื้นที่เกิดเหตุ สังเกตว่า ภายในห้องยังมีเครื่องใช้ของอดีตผู้กำกับโจ้อยู่ คือ ผ้าสำหรับใช้ปูนอน, ถังน้ำดื่ม, อุปกรณ์อาบน้ำ และรองเท้าแตะ



จากนั้น กรมราชทัณฑ์ได้เปิดภายในห้องแยกการควบคุมหมายเลข 51 ที่อยู่ข้างกันให้สื่อมวลชนเข้าไปดูสภาพด้านใน โดยห้องนี้เคยมีผู้ต้องขังที่เป็น LGBTQ อยู่แต่ย้ายออกไปแล้ว 

สภาพในห้อง จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ด้านในสุด มีส้วมหลุม และบ่อน้ำ มีพัดลมระบายอากาศ 1 ตัว และพัดลมเพดาน 1 ตัว เจ้าหน้าที่ยังได้ชี้จุดแนวเหล็กที่ประตูห้องขังขั้นที่อยู่ระดับอก ซึ่งเป็นจุดที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ผ้าขนหนูผูกไว้เพื่อก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า การคุมขังในห้องแยกการควบคุมจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเรือนจำ โดยปกติจะมีทั้งที่ให้อยู่กันหลายคน และให้อยู่คนเดียว อย่างกรณีของห้องหมายเลข 51 ที่ผู้ต้องขังเป็น LGBTQ มีการร้องขอว่า อยากแยกอยู่เพียงคนเดียว

จุดที่ 2 ที่พาสื่อมวลชนไปดู คือ บริเวณแดน 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารขังเดี่ยว ลักษณะเป็นอาคาร 1 ชั้น แบ่งเป็นห้องขังเดี่ยว 10 ห้อง ตั้งอยู่ในรั้วที่แยกออกไปอีกชั้น ลักษณะภายในห้องจะคล้ายกันกับห้องแยกการควบคุมที่แดน 5 คือมีพื้นที่ว่างเปล่า และด้านในมีส้วมหลุม บ่อน้ำ แต่ห้องนี้จะมีเพียงพัดลมระบายอากาศแต่ไม่มีพัดลมเพดาน


พันตำรวจโทเชน กล่าวว่า ห้องขังของกรมราชทัณฑ์ จะสามารถแบ่งศักดิ์ตามความเข้มงวดได้แตกต่างกัน ที่เข้มงวดดุดันมากที่สุดคือ ห้องขังเรือนจำ Super Max ซึ่งมี 5 แห่งทั่วประเทศไทย สำหรับผู้ที่กระทำผิดซ้ำๆ ในเรือนจำ

รองลงมา คือ ห้องขังเดี่ยว ซึ่งที่เรือนจำกลางคลองเปรมมีทั้งหมด 10 ห้อง อยู่ในแดน 1 จะเป็นการขังเดี่ยว 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 30 วัน แบ่งเป็นขัง 15 วัน ออกมาพัก 5 วัน และขังอีก 15 วัน โดยไม่สามารถออกมาพบญาติหรือทนายความได้เลย ห้องขังประเภทนี้ ใช้สำหรับผู้ต้องขังเด็ดขาด ชั้นที่ต้องปรับปรุงมาก

"กรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นการคุมขังในห้องแยกการควบคุมที่แดน 5 ซึ่งมีความดุดันน้อยกว่าห้องขังเดี่ยว ห้องนี้จะใช้สำหรับผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีที่ศาลสูงยังไม่ได้พิพากษา"

ลักษณะการคุมขัง คือให้อยู่ในห้องเฉพาะเวลากลางคืน และการทำกิจวัตรส่วนตัว แต่หากญาติ / ทนายความ มาเยี่ยม ยังสามารถออกมาพบได้ และมีช่วงเวลาให้ออกมาผ่อนคลายที่โถงกลางอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง

ส่วนห้องขังที่เข้มงวดน้อยที่สุด คือ ห้องขังรวม คือใช้ชีวิตอยู่รวมกัน มีโทรทัศน์ให้ดู ช่วงกลางวันปล่อยออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า อดีตผู้กำกับโจ้อยู่ในห้องแยกการควบคุม ไม่ได้อยู่ในห้องขังเดี่ยว ตามที่เข้าใจกัน
 

เกณฑ์การจำแนกผู้ต้องขังว่าต้องให้อยู่ห้องขังแบบใด จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการของเรือนจำ ซึ่งมีผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ ส่วนหนึ่งเป็นความสมัครใจ และมีเรื่องการกระทบกระทั่งกันที่แดน 7 กับผู้คุม จนมีการตั้งกรรมการสอบวินัย กรณีที่นำกล้องเรือนจำไปถ่ายผู้ต้องขังรายอื่น ผู้บัญชาการเรือนจำจึงต้องแยกอดีตผู้กำกับโจ้ออกมา

พันตำรวจโทเชน ยืนยันว่า การเสียชีวิตภายในเรือนจำของอดีตผู้กำกับโจ้ไม่ใช่การฆาตกรรม ซึ่งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ได้

สำหรับกรณีที่น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมขอให้มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น พันตำรวจโทเชน กล่าวว่า อำนาจในการโยกย้ายเป็นอำนาจของปลัดกระทรวง หรือการเสนอของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่เชื่อว่าทางกระทวงจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ชมคลิป เปิดห้องขัง "ผู้กำกับโจ้"