
จากกรณี เมื่อวานนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 17.00 น. ศูนย์วิทยุนรสิงห์ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตาย ภายในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง พื้นที่ ถ.สี่วาพาสวัสดิ์ - เอกชัย หมู่ 6 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ หน่วยบริการประชาชนฯ เข้าตรวจสอบ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พนักงานภายในร้านได้แจ้งว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.กมลรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เป็นพนักงานของร้าน ได้ใช้อาวุธมีดแทงทำร้าย น.ส.ทวินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน จนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเก็บของด้านหลังร้าน และผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในห้องเก็บของ แต่ไม่มีพนักงานคนไหนกล้าเข้าไป เนื่องจาก น.ส.กมลรัตน์ มีอาวุธมีด
ทั้งนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องเก็บของก็พบว่า น.ส.กมลรัตน์ ยังยืนอยู่ภายในห้องเก็บของ ลักษณะยืนคร่อมศพ ของ น.ส.ทวินันท์ อยู่บริเวณข้างบันไดทางขึ้นชั้น 2 ภายในห้องเก็บของด้านหลังร้าน ในมือถืออาวุธมีดความยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัว และแจ้งให้วางอาวุธมีดลง แต่ น.ส.กมลรัตน์ ไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตามยุทธวิธีเข้าควบคุมตัว และแย่งอาวุธมีดมาจากมือของ น.ส.กมลรัตน์ ได้สำเร็จแบบไม่มีฝ่ายใดเจ็บตัว โดยอาวุธมีดถูกตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
เบื้องต้น จากการสอบถามนางสาวกมลรัตน์ ยังไม่ยอมพูดจาอะไรมากนัก ขณะที่พนักงานที่อยู่ในร้านบอกถึงสาเหตุว่า มาจากความคับแค้นใจส่วนตัวของผู้ก่อเหตุที่มีต่อผู้จัดการร้าน หรือผู้เสียชีวิต ซึ่งก่อนที่นางสาวกมลรัตน์ จะลงมือก่อเหตุนั้น ได้ถูก น.ส.ทวินันท์ เรียกไปตำหนิตักเตือนเรื่องการทำงาน และการไม่ปฏิบัติตามระเบียบบางอย่าง (สูบบุหรี่ขณะทำงาน) จึงทำให้ น.ส.กมลรัตน์ โมโห คว้าอาวุธมีดฟันไปที่ใบหน้าและแขนของ น.ส.ทวินันท์ อย่างไม่ยั้ง จนเสียชีวิตอยู่ในห้องเก็บของตรงทางขึ้นบันไดชั้น 2 นั่นเอง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานฯ เข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ ก็ได้ควบคุมตัว นางสาวกมลรัตน์ฯ ไปดำเนินคดีในฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลางเป็นอาวุธมีด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
24 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.ภูวริษ ปลัดจ่า รองสารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า วันนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่งไปฝากขังที่ศาลสมุทรสาคร โดยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากเรื่องการทำงาน พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" โดยมีอาวุธ
ซึ่งลักษณะส่วนตัว ผู้ต้องหามีอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่เรื่อย และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาก็ให้การดี โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ บอกเพียงสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องงาน ซึ่งจะไม่ขอโทษผู้ตาย เพราะไม่จำเป็น
สำหรับบรรยากาศในการนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังนั้น มีแม่ของผู้ต้องหาได้มาเยี่ยม ซึ่งตัวผู้ต้องหาก็มีสีหน้าเรียบเฉยก่อนเดินขึ้นรถตำรวจเพื่อเดินทางไปยังศาลจังหวัดสมุทรสาครต่อไป