
17 กุมภาพันธ์ 2568 รองศาสตราจารย์นายแพทย์วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ “หมอหมู” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิเคราะห์การเสียชีวิตของสาวเด็กเอน ที่ถูกลูกค้าชาวจีน บังคับอัพยาจนเสียชีวิตว่า หากดูหลักฐานที่เจอในห้องที่เกิดเหตุ จะเห็นสารเสพติดที่เรียกว่า “แฮปปี้วอเตอร์” และ "เคตามีน"
โดยสารเสพติด แฮปปี้วอเตอร์ เป็นสารที่ตอนนี้ชาวจีนใช้กันอย่างแพร่หลาย เท่าที่ทราบ แฮปปี้วอเตอร์ มีสารเสพที่ผสมกันอยู่ทั้งหมด 8 ตัว แยกเป็นสารที่มีฤทธิ์กดประสาท 4 ตัว และมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท 4 ตัว โดยทั้ง 8 ตัวนี้จะมี "ยาเสียสาว" อยู่ในนั้นด้วย
หมอหมู บอกต่อว่า สำหรับสารเสพติด “แฮปปี้วอเตอร์” ต้องบอกว่า เป็นที่อันตรายมาก ยิ่งถ้าหากทานควบคู่กันไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะอันตรายหนักกว่าเดิม เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเป็นตัวนำให้สารเสพติดเหล่านี้ไหลเข้าสู่เลือดได้เร็วยิ่งขึ้น จนถึงขั้นระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ตามผลชันสูตรเบื้องต้นที่แพทย์ลงความเห็นเอาไว้
ส่วนผลการชันสูตรที่ยังไม่ปรากฏเรื่องสารเสพติด หมอหมู บอกว่า ต้องรอผลการตรวจเลือดออกก่อน ซึ่งผลสารเสพติดจะสามารถตรวจได้อีกแบบคือจากโคนเส้นผม แต่ด้วยความที่ศพน้องเผาไปแล้ว จึงไม่เหลือไว้ให้นำไปตรวจอีก ดังนั้นต้องรอผลตรวจเลือดจากแพทย์นิติเวชออกก่อน ถึงจะทราบได้ว่าพบสารเสพติดไปร่างของผู้เสียชีวิตหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากฟังข้อมูลจากญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่บอกว่า น้องไม่ได้มีพฤติกรรมในการเสพยาเสพติดแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่า ก่อนที่น้องจะเสียชีวิต น้องอาจจะถูกบังคับให้เสพยาเสพติด (อัพยา) ประกอบกับน้องเพิ่งได้เสพยาเสพติดเป็น พอเจอสารเสพติดที่รุนแรงก็อาจจะทำให้น้องช็อคจนเสียชีวิตได้