
26 กันยายน 2567 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือทนายพัฒน์ พาตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน จากผู้เสียหายทั้งหมด 155 คน ที่ ซื้อทองคำออนไลน์จาก น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก กรกนก และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ สามี-ภรรยา เจ้าของห้างทอง ที่ถูกร้องเรียน เข้าร้อง พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความเอาผิดในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” โดยนำหลักฐานการซื้อขาย และ ผลตรวจปริมาณทองคำ มามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถรวมกลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อทองจากร้านดังกล่าวได้แล้ว 155 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้การรวมตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความเป็นไปได้ยาก ส่วนหลักฐานที่นำมาเข้าแจ้งความในวันนี้ มี หลักฐานการซื้อขาย
และของแถมที่แม่ตั๊กมอบให้ รวมถึงคลิปไลฟ์สดขายทองทางออนไลน์ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งความในวันนี้คือความผิดฐานฉ้อโกงและข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ส่วนผู้เสียหายบางคนที่มีการเซ็นยินยอมเมื่อดำเนินคดีเพื่อแลกกับการได้เงินคืนนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่มีการยอมความแต่อย่างใด
โดย หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความไว้ที่สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง เพราะผู้เสียหายได้รับสินค้าแต่ไม่ตรวจสอบน้ำหนักทองก่อนรับสินค้า สอดคล้องกับข้อมูลของผู้เสียหายอีกราย ที่ยอมรับว่า
ตัวเองเก็บเรื่องนี้มานานเกือบสองปีไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลเพราะกลัวถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท กระทั่งสังคมเริ่มให้ความสนใจ และมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเริ่มมีความรู้ทางด้านกฎหมาย จึงกล้าออกมาเปิดหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม และต้องการให้แม่ตั๊กได้รับโทษตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ไกรวิศท์ กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลร่วมกับ ทาง สคบ. นั้น ทราบว่าทางกลุ่มผู้ชายอาจมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเจตนาหรือจงให้ให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดเรื่องปริมาณ หรือ การโฆษณาเท็จ ส่วนการดำเนินดคีในส่วนของข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” นั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ
ลูกค้ายังแห่ขายทองคืนร้านแม่ตั๊ก แม้เข้าสู่วันที่ 3 จำกัดเหมือนเดิม 300 คิว
บรรยากาศที่บริเวณหน้าร้านทอง ของ "แม่ตั๊ก กรกนก" ที่ตั้งอยู่ริมถนนหทัยราษฎร์ วันนี้ยังคงมีพี่น้องประชาชน เดินทางนำทองคำที่ซื้อไปจากทางร้านก่อนหน้านี้ มาขายคืนกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะเข้าสู่วันที่ 3 โดยประชาชนมารับคิวตั้งแต่ช่วงเช้ามืดโดยคิวแรกเดินทางมาจากราชบุรีตั้งแต่เวลา 02.30 นาที
โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนยังคงเดินทางมาพร้อมกล่องสีแดง ใส่ในถุงขนาดใหญ่ หรือกล่อง เพื่อนำมาขายคืนร้านส่วนบริเวณหน้าร้านยังคงมีกระดาษ A4 ที่เขียนระบุว่า "งดถ่ายรูป และคลิปทุกกรณี" ติดไว้เหมือนเดิม
ทั้งนี้เมื่อช่วงเวลาก่อนร้านเปิด กลุ่มลูกค้าบางส่วนต้องคอยจัดแจงคิวกันเอง โดยนำกระดาษขึ้นมาเขียนชื่อและลำดับคิวตามเวลาที่เดินทางมาถึง
ก่อนที่เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ จึงเริ่มแจกคิว จนเกิดวามวุ่นวาย เนื่องจากประชาชนที่รอต่างออกมารับบัตรคิวพร้อมกัน ก่อนจะมีหนึ่งในประชาชนที่มารอต้องตะโกน เพื่อจัดคิวให้ โดยไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ของร้านทองมาอำนวยความสะดวกจุดดังกล่าวแต่อย่างใด
ส่วนบริเวณหน้าร้านยังคงมีเต้นท์ เก้าอี้ รวมถึงพัดลม รองรับให้กับลูกค้าที่มาขายทองบริเวณหน้าร้าน ส่วนประชาชนที่ไม่ได้นั่งรอภายในเต็นท์ ต่างกระจายนั่งอยู่บริเวณใกล้ๆร้านทองรวมถึงบริเวณใต้ต้นไม้เกาะกลางถนนด้วย
ขณะที่การจราจรยังคงติดในระยะทาง 1 กิโลเมตร เช่นเดิม รวมถึงรถของลูกค้าที่จอดบริเวณข้างทางด้วย ส่วนจำนวนคิวนั้นวันนี้ทางร้าน ยังคงแจดคิวกำหนดที่ 300 คิว
ด้าน นางจารีย์ เดินทางมาจากจัหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาเพื่อนำทองที่ซื้อจากที่นี่มาขายคืน และมาเบิกเงินที่ได้ออมทองกับที่ร้านนี้ไว้ ส่วนปี่เซียะที่เคยซื้อไปก่อนหน้านี้ยังคงเอาไว้บูชาที่บ้านเหมือนเดิม ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อทองกับร้านแห่งนี้เนื่องจากว่า
ได้ติดตามดูเจ้าของร้านมานานในโลกออนไลน์ ประกอบกับเห็นเจ้าของร้านเป็นคนใจบุญทำบุญเยอะและกตัญญูกับพ่อแม่ จึงได้มีการออมทองและซื้อทองกับร้านนี้ไว้ และได้ตัดสินใจซื้อปี่เซียะร่วมเพิ่มเติมด้วย แต่เมื่อเห็นข่าวที่เกิดขึ้นก็ตกใจ และนำทองมาขายคืนในวันนี้
ตอนที่รู้ข่าวตนก็ตกใจ ถูกต่อว่าจากครอบครัวว่าไปทำอย่างไรจนถูกหลอกได้ ส่วนทองที่ซื้อไว้จะนำไปขายที่ร้านใกล้บ้านก็ไม่กล้ากลัวเขาตรวจสอบมาแล้วกลายเป็นทองปลอม วันนี้จะได้เดินทางมาขายคืนที่ร้านแห่งนี้