
5 สิงหาคม 2567 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ในคดีลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวน 3 คดี
คดีแรก สตม.จับกุมขบวนการขนคนต่างด้าว ขึ้นเหนือล่องใต้อ้างโปรไฟล์รับขนส่งทั่วไทย โดย ตม.จ.น่าน ร่วมกับ ตม.จ.สุรินทร์ จับกุม นายหนูเรียง (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ลงวันที่ 15 มี.ค.67 โดยจับกุมบริเวณถนนสาธารณะคุ้มวัดกลาง หมู่ 9 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์
การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 ตม.จ.น่าน ร่วมกับ นปพ.กก.สส.ภ.จว.น่าน ประจำจุดตรวจห้วยน้ำอุ่น จับกุมนายจิระวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พร้อมคนต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา จำนวน 6 คน นายจิระวัฒน์ สารภาพว่า ได้รับงาน รับ-ส่ง คนต่างด้าวจากนายหนูเรียง เป็นเงิน 18,000 บาท ให้ไปส่งคนต่างด้าวจำนวน 6 คน จากต้นทาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ปลายยังบริเวณชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยพูดคุยติดต่อกับนายหนูเรียง เพื่อนัดแนะถึงรายละเอียดในการ รับ-ส่ง คนต่างด้าวรวมถึง ค่าตอบแทนจากนายหนูเรียง ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Zello และ Line
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลพบว่า นายหนูเรียง มีพฤติกรรมในการลักลอบรับ-ส่ง คนต่างด้าวไปทั่วราชอาณาจักร รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ และยังพบว่า นายหนูเรียงเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงจึงขอศาลออกหมายจับ จนสามารถจับกุมในที่สุด
คดีที่สอง สตม.ตามรวบ "บังหยัน" หัวโจกขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองข้ามชาติ โดย ตม.จ.สงขลา ร่วมกับ ตม.จ.ปัตตานี จับกุมนายซัฟยัน หรือ บังหยัน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ลงวันที่ 5 ก.ค.67 ข้อหา กระทำความผิดฐาน "ช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ พ้นจากการจับกุม" โดยจับกุม บริเวณหมู่บ้านปาแดลางา ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
การจับกุมสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 ตม.จ.สงขลา จับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศ หลบหนีเข้าเมือง 19 คน พร้อมผู้ให้การช่วยเหลือ 2 คน ที่บริเวณถนนสายเอเชีย หมายเลข 2 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังจากนั้นได้ขยายผลพบว่า นายซัฟยัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ และทราบว่า นายซัฟยัน มาหลบอยู่ที่บ้านพักในเขต อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงประสาน ตม.จ.ปัตตานี เข้าจับกุม
สำหรับนายซัฟยัน ถือเป็นกลไกสำคัญระดับสั่งการ ในการลำเลียงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติบังกลาเทศ จากกัมพูชา ผ่านไทยไปยังมาเลเซีย มีหมายจับติดตัวจำนวน 2 หมายจับ โดยจะทำหน้าที่สั่งการประสานงานกับนายหน้าประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจัดหารถขนแรงงานต่างด้าวครั้งละ 15-20 คน เจ้าหน้าที่ยังพบว่า เครือข่ายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี นำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เคยจับกุมมาแล้ว 3 คดี
คดีที่สาม สตม.จับกุมนายหน้าผู้ประสานงานขบวนการขนคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดย ตม.จ.ชุมพร ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุมนายฮาวาย (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 67 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" โดยจับกุมได้ริมถนนเทศบาล 4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 ได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะตู้ทึบ ขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 18 คน พลิกคว่ำบริเวณ ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายสิทธิศักดิ์ หรือ บาส (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี โดยผู้ต้องหาได้รับการว่าจ้างให้ไปรับคนต่างด้าวชาวเมียนมา ที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อไปส่งยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ในครั้งนี้มีรถที่ไปรับคนต่างด้าวด้วยกันอีก 1 คัน คือ นายธีรพงษ์ (ได้ออกหมายจับดำเนินคดีไปแล้ว) จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า นายธีรพงษ์ ได้รับโอนเงินค่าน้ำมันมาจากนายฮาวาย จึงขยายผลขอศาลออกหมายจับนายฮาวาย และจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ นายฮาวาย ได้รับการประสานจากนายหน้าในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยทำหน้าที่เป็นนายหน้าจัดหารถขนคนต่างด้าว จากพื้นที่ภาคกลางไปยังพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับนายอนุรักษ์ หรือบอย ได้ส่วนต่างจากการติดต่อจัดหารถหัวละ 1,000 บาท ซึ่งมีคดีลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกับนายฮาวาย และนายอนุรักษ์ อีก 4 คดี
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากสังขละ-กาญจนบรี/สมุทรสาคร/สงขลา/นราธิวาส/มาเลเซีย จาก ตาก/ปทุมธานี/สงขลา/นราธิวาส/มาเลเชีย ของเครือข่ายนิตาเว - ซูก้า เครือข่ายวุฒิแม่กลอง เครือข่ายนายวิทยา เครือข่ายซูซูมาร์ และเครือข่ายนายอนุรักษ์
ซึ่งทั้ง 5 เครือข่ายมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยเป็นการจับกุมทั้งสิ้น 14 คดี จับกุมผู้ต้องหา 70 ราย จับกุมในที่เกิดเหตุ 22 ราย สืบสวบขยายผลออกหมายจับทั้งหมล 57 หมายจับ แบ่งเป็นความผิดฐานช่วยเหล็อซ่อนเร่น 45 หมายจับ แบ่งเป็นฐานความผิดมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม 12 หมายจับ จับกุมเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมือง 464 ราย ตรวจยึดยานพาหนะ 27 คัน ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 700 กว่าล้านบาท