2 สิงหาคม 2567 กรณีตำรวจ บก.ปคม. นำหมายศาลเข้าจับกุม พระครูปลัดปรเมษฐ์ฯ พระที่วัดแห่งหนึ่ง ใน ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ ในคดีลวงสามเณร ท่องบทสวดมนต์ ก่อนล่วงละเมิดนานนับปี เมื่อครั้งจำวัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพเมื่อช่วงปี 2559-2561 จากนั้นนำตัวไปสึกจากความเป็นพระ พร้อมนำตัวเข้ากรุงเทพฯ มาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ในวันนี้ (2 ส.ค.67) ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.เบิกตัว นายปรเมษฐ์ (สงวนนามสกุล) หรือ อดีตพระครูปลัดปรเมษฐ์ฯ อายุ 32 ปี ออกมาสอบปากคำเพิ่ม
จากนั้นนำตัวนายปรเมษฐ์ ที่สวมเสื้อยืดสีขาว พิมพ์หน้าอกคำว่า “พุทโธ” ขึ้นรถตู้ เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายปรเมษฐ์ ระหว่างเดินไปขึ้นรถว่ารู้สึกอย่างไร หลับสบายหรือเปล่า ได้สวดมนต์หรือเปล่า? ได้กอแ่เหตุละเมิดสามเณรตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ แต่นายปรเมษฐ์ ไม่ตอบใดๆ ก่อนเร่งสาวเท้าเดินขึ้นรถพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปศาลอาญาทันที
นอกจากนี้ ตำรวจที่เข้าเวรเฝ้าห้องขัง เปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมานายปรเมษฐ์ ที่อยู่ในห้องขังเมื่อคืนไม่มีอะไร เหตุการณ์ปกติ เท่าที่สังเกตนายปรเมษฐ์ อยู่ในอาการสงบไม่มีท่าทีวิตกกังวลแต่อย่างใด ไม่เห็นว่าจะสวดมนต์หรือมีท่าทีผิดปกติ ไม่มีญาติหรือคนรู้จักมาติดต่อเยี่ยม หรือมีคนเตรียมที่จะยื่นประกันตัวที่ศาลเหมือนผู้ต้องหาคนอื่นๆ
ทั้งนี้ นายปรเมษฐ์ ถูกศาลอาญา ออกมหายจับที่ 3493/2567 ลงวันที่ 30 ก.ค.2567 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลอื่น, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลอื่น, ข่มขืนกระทำชำเราการกระทำอนาจารซึ่งกระทำต่อเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการหรือผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล, บังคับ ขู่เข็ญให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”