15 มิถุนายน 2567 ความคืบหน้าที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) กรณีของกลางเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ คดีน้ำมันเถื่อนเครือข่าย "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" ซึ่งบรรจุน้ำมันรวมกว่า 3.3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จนมีคำสั่งให้ตำรวจ บก.รน. 4 นาย ไปช่วยราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยให้ขาดจากต้นสังกัด ตั้งเเต่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (12 มิ.ย.) เข้าสู่วันที่ 4 เเล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตาม นำเรือบรรทุกน้ำมันกลับมาได้ หลังจากสันนิษฐานว่า ลูกเรือทั้ง 3 ลำ นำเรือออกไปถึงน่านน้ำกัมพูชา ทำให้ทาง พล.ต.ต.พฤทธิพล นุชนารถมผู้บังคับการตำรวจน้ำ เดินทางไปกัมพูชา ประสานกับทางทหารเรือของกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือช่วยในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำ
สำหรับหนึ่งในพยานคนสำคัญ คือ นายเล็ก ที่ทีมข่าวได้ข้อมูลมาก่อนหน้านี้ว่าเขาเป็นคนเดียว ที่ไม่ได้ร่วมไปกับ ลูกเรือทั้ง 3 ลำ รวม 17 คน เเละเป็นผู้ให้ข้อมูลว่ามีการเตรียมเเผนกันมาตั้งเเต่เดือนที่เเล้วโดยมีทางเจ้านายเป็นผู้เคลียร์ทาง โดยชุดสืบนำตัวไปสอบปากคำอยู่2วัน เเละถูกนักข่าวตามหากันตลอดทั้งวันหลังถูกปล่อยตัวออกมา
ล่าสุดนักข่าวของ "เนชั่นทีวี" ได้เจอกลับนายเล็ก เเล้ว เเต่นายเล็ก ไม่ให้ข้อมูลใดใดเพิ่ม เเละเดินกลับเข้าไปที่เรือทันที โดยทางตำรวจคุมเข้ม ล็อคประตูทางเข้าท่าเทียบเรือ ไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่
คลี่ปมถังน้ำหลังบ้านพักตร.ของเรือตรวจการณ์
ส่วนกรณีที่มีการ พบมีท่อน้ำมัน และท่อน้ำ เดินท่อคู่ขนานกันไปทางปลายสะพาน เเละ พบถังน้ำมันขนาดใหญ่วางอยู่ด้านหลังบ้านพักตำรวจน้ำ ได้รับคำชี้เเจงจากตำรวจน้ำระบุว่า เป็นถังน้ำมัน ที่ใช้เติมน้ำมัน ของเรือตรวจการณ์ ทั้ง 3 ลำ เเละ เรืออื่นๆ ที่ใช้ในภารกิจของตำรวจน้ำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร ปั๊มเติมน้ำมันตรงท่าเทียบเรือมันเสีย จึงนำน้ำมันมาเก็บไว้หลังโรงพัก
ขณะเดียวกันทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสิบสวนกลางมได้สั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง พาเดินดูเเละชี้เเจง เพื่อป้องกันการสร้างความสับสน
ตร.ยันกระบะสีดำไม่ได้ลอบขนน้ำมันของกลาง
จากที่ปรากฏภาพแกลลอนน้ำมันจำนวนหลายใบ อยู่ที่บริเวณบ้านพักของ ข้าราชการสถานีตำรวจน้ำ 3 โดยภายในแกลลอน มีน้ำลักษณะคล้ายกับน้ำมันดีเซล และ ยังไปสอดคล้องกับรถกระบะ บรรทุกวัตถุบางอย่าง คล้ายกับแกลลอนน้ำมัน ขับออกจากถ้าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจน้ำ สัตหีบ
ล่าสุดว่าที่ พันตำรวจเอก ขจรยศทรงประดิษฐ์ ผู้กำกับการเรือ 4 กลุ่มงานเรือ ตรวจการ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้กำกับการ 5 สถานีตำรวจน้ำ 3 สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้นำทีมข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณบ้านพักของข้าราชการตำรวจน้ำ
จากการตรวจสอบพบว่า มีถังเบาท์ อยู่กว่า 10 ใบ ถูกคลุมด้วยผ้าใบทึบกันแสง ขณะที่ภายในถังบรรจุน้ำมันใช้แล้ว ที่ดูดออกมาจากเรือลาดตะเวนของตำรวจน้ำ มาพักให้น้ำมันตกตะกอน เนื่องจากเป็นน้ำมัน ที่ปนเปื้อนน้ำทะเลจากการใช้งานในเรือ ขณะที่ถังเบาท์บางใบ ก็เป็นถังเปล่า ส่วนที่ต้องนำมาตั้งไว้ที่บ้านพักข้าราชการ เนื่องจากตำรวจน้ำไม่มีโรงเก็บมิดชิด และ หากวางไว้กลางแดด น้ำมันอาจจะละเหย และ เป็นอันตรายเพราะไวไฟ จึงต้องหาที่ร่ม ไม่โดนแสงแดด แล้วนำผ้าใบมาคลุมไว้
ว่าที่ พันตำรวจเอก ขจรยศ ยืนยันว่าตำรวจน้ำมีมาตราการดูแลความปลอดภัยขัดเจน มีกล้องวงจรปิด บริเวณท่าเทียบเรือ จนถึงทางออกท่า ,มีตำรวจลาดตระเวนคอยดูแลความเรียบร้อย รวมถึงพนักงานสอบสวน ปอศ. และกรมศุลกากร มีการมาตรวจเช็คของกลางตามรอบ ยืนยันว่าไม่มีการปกป้องหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิด