13 มิถุนายน 2567 ความคืบหน้าในการติดตามค้นหา เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ของกลางในคดีน้ำมันเถื่อน เครือข่าย "โจ๋ ปัตตานี" ที่หายไป 3 ลำ จากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เรือลาดตระเวนตำรวจน้ำ 815 และ 632 เดินทางกลับมาที่สะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ หลังจากได้ออกปฏิบัติการค้นหาเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ ที่หายไปตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สารวัตรสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ หัวทีมทีมค้นหา ระบุสั้น ๆ ว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำตรวจปฏิบัติหน้าที่ก่อน ก่อนจะเดินทางออกจากพื้นที่ไปทันที
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าปฏิบัติการค้นหาได้ลาดตระเวนไปถึงเกาะช้าง จังหวัดตราด ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีประชาชนพบเห็น แต่ผลการค้นหากลับไม่พบเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งคาดวว่าน่าจะหลบหนีออกจากน่านน้ำไทยไปแล้ว
ขณะที่ พ.อ.อ. อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า เวลานี้มีการค้นหาทั้งทางน้ำ ทางอากาศ ตามเส้นทางที่คาดว่าจะไปทางไหน อาจจะเป็นตามเส้นทาง ที่เคยเรืออยู่เเล้วเเละมีนายหมู่เรือ เเต่การค้นหาทางทะเลพื้นที่ขว้าง ยากในการตามหา
"จเรตำรวจ" พร้อม "บิ๊กเต่า" ลงพื้นที่
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.67 พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ จเรตำรวจ สบ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน. ได้เดินทางตรวจสอบรับทราบข้อเท็จ และติดตามผลความคืบหน้า กรณีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ใน 5 ลำ สูญหายไปจากอ่าวสัตหีบ บริเวณสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกกับทีมข่าวว่า จะต้องหาผู้รับผิดชอบคดีนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ลูกเรือที่นำเรือหนี และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่ปล่อยปละละเลยให้ของกลางสูญหาย
"ต้องสอบให้ได้ว่า เรือที่นำไปจอดห่างจากท่าเรือ 100 เมตร มีลูกเรือขึ้นไปขโมยเรือได้อย่างไร มีการคุมเข้มการป้องกันการเดินเรือหรือไม่ เพราะจากกล้องวงจรปิดพบว่าเรือได้ปิดไฟก่อนจะหายไปในเวลา 20.10 น. ของวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา"
เปิดข้อมูลคดีจับเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ
สำหรับ เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 5 ลำ ที่สูญหายไป 3 ลำนั้น สืบเนื่องเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรือปิดอ่าวไทยไล่ล่าจับกุม 5 เรือไทย ลักลอบขนดีเซลเถื่อนกว่า 3 แสนลิตร ห่างชายฝั่งสัตหีบออกไปราว 80 – 100 ไมล์ทะเล ซึ่งเรือทั้ง 5 ลำ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ตำรวจควบคุมไว้ได้ พร้อมลูกเรือรวม 15 คน ในจำนวนนี้มี 2 ลำ ไม่มีน้ำมันในตัวเรือ ส่วนอีก 3 ลำมีน้ำมัน ซึ่งเป็น 3 ลำที่หายไป
จากการตรวจสอบพบน้ำมันเถื่อน หรือน้ำมันที่หลบเลี่ยงภาษีสรรพสามิต ชนิดน้ำมันดีเซลราว 325,000 แสนลิตร มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน หากคิดภาษี 1,900,000 บาท และเป็นค่าปรับประมาณ 30 ล้านบาท
หลังจับกุม ได้นำหลักฐานเรือ พร้อมลูกเรือ และของกลาง แจ้งความดำเนินคดี ในคดีอาญาเลขที่ 102/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค.67 ส่วนเรือของกลางทั้ง 5 ลำ ได้จอดเทียบท่าไว้ บริเวณสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ โดยมีสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ เป็นหน่วยเก็บดูแลรักษาของกลาง จัดเวรยามเฝ้าดูแลตลอด 24 ชม.
เปิดไทม์ไลน์เรือของกลางหาย
กรณีเรือบรรทุกน้ำมันหายดังกล่าว ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน.) สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้เรือตำรวจน้ำ หมายเลข 815 และ 632 เดินทางออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ มุ่งหน้าไปทางทะเลด้านอ่าว จ.ระยอง
ต่อมา ทราบจาก พ.ต.ท.กอบชัย สว.ตำรวจน้ำว่า ตัวเองพร้อมลูกน้องนำเรือออกทะเล เพื่อไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน จำนวน.3 ลำ ที่ทอดสมออยู่ในอ่าวสัตหีบ ได้หนีหายไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 11 มิ.ย.67 และคาดว่าน่าจะมุ่งหน้าไปทาง จ.ตราด และเข้าไปในเขตทะเลประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.ท.กอบชัย เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนชุดที่จับกุมมาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 จำนวน 5 ลำ พร้อมตรวจยึดน้ำมันดีเซลกว่า 325,000 ลิตร โดยเรือของกลางได้จอดเก็บรักษาไว้ที่สะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จนเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ได้เกิดคลื่นลมแรงอย่างมากเกรงว่า ด้วยสะพานเริ่มมีสภาพเก่า อาจถูกเรือกระแทกจนได้รับความเสียหายได้ จึงสั่งให้เรือของกลาง 3 ลำ ออกไปทอดสมอในอ่าวสีตหีบ ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยสายตา จนถึงเวลาประมาณ 21.00 ของวันที่ 11 มิ.ย.มีคนเห็นว่า เรือทั้ง 3 ลำ ยังจอดอยู่ตามปกติ แต่ปิดไฟมืด ก็ไม่มีใครสงสัย
กระทั่ง ช่วงเช้าของวันที่ 12 มิ.ย. ไม่เห็นเรือจอดทอดสมอลอยลำอยู่ จึงได้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครทราบเรือหายไปไหน พร้อมกับน้ำมันของกลางในเรือ จึงได้นำเรือออกติดตาม พร้อมประสานหมู่เรือลาดตระเวนชายแดน เรือตรวจการณ์ทัพเรือภาคที่ 2 และเรือตำรวจน้ำในพื้นที่ จ.จันทบุรี ออกลาดตระเวนตรวจสอบ โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า มีคนเห็นเรือทั่ง 3 ลำนี้ อยู่บริเวณหลังเกาะช้าง จ.ตราด