
1 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. จับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" และ น.ส.พิมณัฎฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ ตูน อดีตผู้สมัคร สส.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน
ต่อมา ตำรวจได้บุกจับผู้ต้องหาร่วมขบวนการคนสำคัญเพิ่มอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายเอกลักษณ์ วารีชล หรือ เอก ปากน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับการเรียกเอาทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าวและภรรยา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้คุมตัว นายเอกลักษณ์ วารีชล หรือ "เอก ปากน้ำ" ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวและภรรยา และเป็นเครือข่ายของนายศรีสุวรรณ จรรยา หลังพบพฤติการณ์เป็นตัวกลางระหว่างอธิบดีกรมการข้าวและเครือข่ายของนายศรีสุวรรณ มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาที่ บก.ปปป.
โดยระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายเอก มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตำรวจมีการบอกให้สื่อมวลชนรอบริเวณชั้นที่ 16 ของอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ตำรวจกลับมีการคุมตัวนายเอกเข้าชั้นที่ 15 โดยไม่ได้มีการให้ข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชน และนำตัวเข้าไปสอบปากคำทันที
ต่อมา เวลา 14.30 น. ที่ปรึกษากฎหมาย รายหนึ่ง เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนชุดที่คุมตัวนายเอกโดยไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆระบุเพียงว่า รู้จักกันจากการเป็นทนายความในคดีเก่า ขณะนี้ยังคงอยู่กับพนักงานสอบสวน
นอกจากนี้ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเปิดเผยถึงกรณี ที่เดินทางเข้ามาพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เมื่อวานนี้ ว่า ตนเองได้เข้ามาให้ข้อมูลเรื่องผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ จรรยา และได้พนักงานสอบสวนสอบปากคำไว้ในฐานะพยาน โดยเป็นการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเองได้ให้ข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ไปแค่ท่านเดียว และเป็นบุคคลที่ตำรวจ ปปป. ได้จับกุมมาได้ในวันนี้ ซึ่งพฤติการณ์เป็นตัวกลางที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
และตัวกลางคนนี้ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพาดพิงมาถึงตนเอง คงต้องตรวจสอบก่อนหากมีการพาดพิงก็คงไปแจ้งความและการแจ้งความก็ไม่ได้เป็นการแจ้งความโดยใช้อารมณ์ เพราะถ้าไม่จริงก็ต้องใช้ทางกฎหมาย แต่ถ้าจริงก็ยอมรับ ซึ่งบุคคลนี้ ที่ตนเองมาให้ข้อมูลก็เป็นไปตามข่าว คือ คนกลางคนนี้ เวลาจะเข้ามาก็ติดต่อเข้ามาบอกว่าจะไปร้องเรียนแล้ว และให้เราไปบอกคนโน้นคนนี้ แต่เราไม่เล่นด้วย เพราะถ้าเล่นด้วยคงไม่มาเป็นพยานจนนำไปสู่การออกหมายจับ
"จริงๆคนๆนี้ (ตัวกลาง) รู้จักกันมาประมาณ 3 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ผมอยู่กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช แล้วเขาก็มาร้องเรียนตอนที่ผมอยู่คณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริต พอมาร้องเรียนก็แลกไลน์กันไป และมีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่คุยไม่ได้มีการข่มขู่ พูดคุยดีๆ แต่ผมก็เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด และได้แจ้งกับอธิบดีกรมการข้าวไว้ด้วย" นายธนดล กล่าว
นายธนดล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีอธิบดีกรมการข้าว ยืนยันว่า ไม่เคยทุจริต นั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อชี้แจงให้ชัดเจน แต่ตนเองไม่ได้แจ้งกลับไปจากตัวกลางที่ติดต่อมาว่า สิ่งที่จะร้องเรียนไม่เป็นความจริง เพราะเราไม่อยากคุยกับเขา เราก็กลัวเขาบันทึกเสียงเราก็ต้องระมัดระวังในคำพูดด้วย ซึ่งส่วนมากตัวกลางมักจะให้เราไปบอกและไปประสานให้ แต่ในข้อเท็จจริงทั้งหมด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้อธิบายไปหมดแล้ว
ส่วนกรณีที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แถลงพาดพิงว่ามีการติดต่อไปที่ ร้อยเอกธรรมนัส นั้น ตนเองยังไม่ได้ติดตามและยังไม่ทราบ และมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นการกล่าวอ้างราคาคุย และท่านก็โดนอ้างมาบ่อยๆอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นายธนดล ยังกล่าวถึง กรณีที่ไปแจ้งความสื่อมวลชน ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับสื่อ แต่การที่เอารูปภาพไปแสดงว่าเป็นคนพาไปตบทรัพย์ ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วตนเองไม่มีช่องทางติดต่อสื่อช่องดังกล่าว จึงต้องไปแจ้งความ แต่เมื่อวานนี้ทางผู้ประกาศข่าวได้เข้ามาขอโทษและทำความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งตนเองก็ขอโทษกลับไปและวันนี้ก็จะไปถอนแจ้งความ