
ความคืบหน้ามหากาพย์คดีการเสียชีวิต น้องชมพู่" ล่าสุดศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาว่า นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี, ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี และยกฟ้องนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น นั้น
20 ธันวาคม 2566 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณศาลที่ตัดสินด้วยความเป็นธรรม และขอให้เครดิตท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ที่ให้ความสนใจและลงมาติดตามคดีด้วยตนเอง พร้อมทั้งระดมกำลังชุดสืบสวนจากทั่วประเทศมากฝีมือมาอยู่ที่บ้านกกกอก
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐ., พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 รวมถึงทีมงานนักสืบทุกคน สถาบันนิติเวชโรงพยาบาล กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในขณะนั้นได้รับผิดชอบคดีดังกล่าวและทุกคนทำงานอย่างเต็มที่สุดความสามารถ
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมากระบวนการทำงานของตำรวจชุดสืบสวนนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลบุคคลใดบุคคลหนึ่งว่า เป็นผู้กระทำความผิด แต่ยึดจากพยานหลักฐานที่พบเจอเป็นจุดสำคัญจนนำไปสู่การเจอตัวผู้กระทำผิด ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญได้ทั้งหมด 8 ข้อ ดังนี้
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า คำตัดสินวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์การทำงานของชุดคลี่คลายคดีที่อดหลับอดนอน ปีนเขา 8 ลูก 9 ลูก กันมานานกว่า 3-4 เดือน ในการหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนร้ายได้รับการลงโทษกับสิ่งที่กระทำต่อเด็กที่อายุเพียงแค่ 3 ขวบ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสืบสวน การสอบสวน รวมการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนำส่งศาลเพื่อสืบพยานในชั้นศาล