svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

อัยการภาค 9 ส่ง EMS ด่วน! สำนวนคดีเสี่ยเเป้ง ให้ อธ.อัยการวิชาการ ตรวจวิเคราะห์

27 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผย สำนวนคดีเสี่ยเเป้ง จากอัยการภาค 9 ส่ง EMS ด่วน มาให้ อธ.อัยการวิชาการ วิเคราะห์วันนี้ อุบตอบย้าย "อัยการ บ." หรือไม่ ต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์สำนวนก่อน

27 พฤศจิกายน 2566 นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบคลิป นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ที่พาดพิงพนักงานอัยการ ชื่อย่อ บ.ใบไม้ เคยตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายเชาวลิต เเต่อัยการภาค 9 สั่งไม่ฟ้อง ว่า เรื่องนี้อัยการสูงสุด นอกจากจะสั่งให้อธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเเล้ว ยังได้สั่งการให้อธิบดีอัยการภาค 9 เเละอธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ประสานงานกันเพื่อนำสำนวนดังกล่าวมาวิเคราะห์

ซึ่งเดิมสำนวนคดีนี้มีอยู่ 2 ส่วน ส่วนเเรกเป็นส่วนที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งในส่วนนี้มีอัยการ บ. อยู่ในกลุ่ม 1 ใน 6 ผู้ต้องหา ที่อธิบดีอัยการภาค 9 ในปี 2563 มีคำสั่งไม่ฟ้อง เเละคำสั่งส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้พิจารณาเเล้วเห็นพ้องกัน ไม่ได้โต้เเย้ง ถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

ส่วนอีกคำสั่ง คือ คำสั่งที่ได้ฟ้องเสี่ยเเป้ง จนศาลพัทลุงมีคำพิพากษาจำคุก เเละมีข่าวว่าเสี่ยเเป้งหลบหนีจนมาออกคลิปวิดีโอพาดพิงถึงอัยการ เรื่องนี้ทางอธิบดีอัยการภาค 9 ได้รายงานผลการตรวจสอบมายังอัยการสูงสุดเเล้วเป็น 2 ส่วน 

ส่วนแรกคือ ในส่วนที่มีการพาดพิงอัยการ บ. ข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างที่ตนพูดขั้นตอนในตอนต้น

ส่วนที่ 2 ที่มีบัตรสนเท่ห์กล่าวถึงอัยการอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นอัยการจังหวัดคดีศาลเเขวงจังหวัดสงขลา ซึ่งทางอธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบเเล้วพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เนื่องจากขณะเกิดเหตุรับราชการอยู่ที่สำนักงานอัยการอาญามีนบุรี รวมทั้งไม่รู้จักกับอัยการ บ. เเละเสี่ยเเป้ง เเละคลิปที่ 2 ของเสี่ยเเป้ง ก็ระบุว่า ไม่รู้จักอัยการคนที่โดนบัตรสนเท่ห์ด้วย

ส่วนคำสั่งไม่ฟ้องอัยการบอย กับพวกรวม 6 คน เเละสำนวนที่มีการฟ้องเสี่ยเเป้ง หลังได้รับคำสั่งอัยการสูงสุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ทางผู้บริหารของสำนักงานอัยการวิชาการ โดยวัชระ อินทุสุต อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ได้ประสานไปยังอธิบดีอัยการภาค 9 เเล้ว เเละเมื่อช่วงเช้าทางทีมโฆษกอัยการได้ข้อมูลว่า สำนวนดังกล่าวมีการส่ง EMS ด่วน คาดว่าจะถึงสำนักงานวิชาการช่วงบ่ายวันนี้ หรืออย่างช้าช่วงเช้าพรุ่งนี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องรอผลการวิเคราะห์คดีของสำนักงานอัยการสำนักงานวิชาการ

นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด"

สิ่งที่เเจ้งให้ทราบได้ตอนนี้คือ กระบวนการสั่งไม่ฟ้อง หรือฟ้องคดีดังกล่าว ที่ผ่านมาเป็นการสั่งเด็ดขาดตามกระบวนการกฎหมายบัญญัติทุกประการ เเต่กฎหมายเขียนไว้ว่า การจะสั่งคดีใหม่ได้ จะเป็นไปตามป.วิอาญามาตรา141 ที่จะต้องมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใหม่ ที่สามารถนำสืบพิสูจน์ให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้ ถ้าเป็นกรณีเช่นนี้ ก็อาจจะรื้อฟื้นคดีได้ เเต่ทั้งนี้ต้องรอผลวิเคราะห์สำนวน

เมื่อถามว่า อัยการสูงสุดได้กำหนดกรอบเวลาหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า อัยการสูงสุดยังไม่มีข้อสั่งการส่วนนี้ เเต่อย่างที่ตนเรียนว่าทางอัยการมีการประสานงานกันตลอดเเม้วันหยุด ซึ่งเป็นการทำงานโดยเร่งด่วนรวดเร็วอยู่เเล้ว ตนให้ความมั่นใจกับสังคมได้ว่า เรื่องเเบบนี้อัยการสูงสุดเเละหน่วยงานในอัยการที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญเเน่นอน เเละเมื่อผลวิเคราะห์ออกทางโฆษกอัยการจะรีบเเถลงข่าวให้สาธารณชนทราบ ส่วนจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ ต้องรอผลการวิเคราะห์ของสำนักงานอัยการสำนักงานวิชาการก่อน

ถามว่าตอนอัยการ บ. ตกเป็นผู้ต้องหา ในอัยการมีการดำเนินการทางวินัย เเละระหว่างตรวจสอบต้องย้ายอัยการ บ. ออกจากพื้นที่หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ข้อมูลในส่วนนี้ยังไม่มี ต้องรอผลการตรวจสอบ ซึ่งเชื่อว่าทางอธิบดีอัยการภาค 9 ต้องรวบรวมส่งสำนักงานอัยการวิชาการทั้งหมด ส่วนเรื่องการย้ายอัยการบอยหรือไม่นั้น ทางผู้บริหารรอดูผลการตรวจวิเคราะห์ เเต่โฆษกยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้

ถามต่อว่ากรณี มีข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมนายจรวด จะมาให้ถ้อยคำกับอัยการเพิ่มเติมได้มีมาหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้งานโฆษกยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ เเละเท่าที่พูดกับทางอธิบดีอัยการภาค 9 เเละอธิบดีอัยการสำนักงานวิชการยังไม่มีข้อมูลนี้

อัยการภาค 9 ส่ง EMS ด่วน! สำนวนคดีเสี่ยเเป้ง ให้ อธ.อัยการวิชาการ ตรวจวิเคราะห์

เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้มีเรียกใครให้ถ้อยคำเเล้วหรือไม่ นายประยุทธ ตอบว่า ตอนนี้ทางสำนักงานอัยการสำนักงานวิชการยังไม้ได้รับสำนวนเลย กำลังเดินทางมา

มันมีหลักกฎหมาย การทำงานของพนักงานอัยการ จะดูว่าพยานหลักฐานพอฟ้องหรือไม่พอฟ้อง ถ้าไม่พอฟ้องเราจะไม่ฟ้อง ถ้าพอฟ้อง เราจะฟ้อง เพราะถ้าไม่พอฟ้องเเต่ไปฟ้อง มันจะทำให้คดีเสียหาย เพราะว่า หากรู้ว่าพยานหลักฐานไม่พอฟ้องแต่ยังไปฟ้อง สุดท้ายศาลยกฟ้อง ทำให้ไม่สามารถที่จะฟ้องคดีใหม่อีกได้เพราะจะเป็นฟ้องซ้ำ

แต่ถ้าเราไม่ฟ้อง เพราะหลักฐานมันไม่พอในภายหลังพยานหลักฐานใหม่มาปรากฏภายในอายุความ และพยานหลักฐานนั้นสามารถสืบพิสูจน์ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้ เราก็รื้อฟื้นคดีอาญามายื่นฟ้องได้ ตรงนี้เป็นข้อกฎหมาย แต่ในสำนวนนี้ จะเป็นแค่ไหนเพียงใดต้องรอการตรวจสอบจากสำนักงานวิชาการ

logoline