25 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งค้ารถหลุดจำนำ จับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 7 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอก หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร” จำนวน 6 ราย และผู้กระทำความผิดฐาน “ปลอม หรือใช้เอกสารราชการปลอม, ครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะ และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่” จำนวน 1 ราย
เนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกแก๊งมิจฉาชีพทำทีมาติดต่อขอเช่ารถ จำนวน 1 คัน แต่เมื่อได้รับรถไปแล้ว กลับออกลายโจร เชิดรถคันดังกล่าวหลบหนีไป ก่อนที่ต่อมาผู้เสียหาย จะไปพบรถของตัวเองถูกโพสต์ ประกาศขายบนเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “นางฟ้า รถหลุดจำนำ” จึงนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือ จากตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามรถกลับคืน
หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ แบ่งหน้าที่ต่างกันไป เช่น นายทุนที่รับรถหลุดจำนำมาเพื่อปล่อยค้ากำไร, นายหน้าหาลูกค้า, คนทำเพจประกาศขายรถทางออนไลน์, คนหารถป้อนเข้าสู่ขบวนการ และช่างรับถอด GPS
นอกจากนี้ยังพบว่า รถของผู้เสียหาย หรือรถที่ถูกขโมยมานั้น จะมีการส่งต่อลูกค้ากินหัวคิวกันหลายทอด โดยแต่ละทอดก็จะมีนายหน้า หักค่าคอมมิชชั่น คล้ายกับลักษณะเครือข่ายใหญ่ เชื่อมโยงกันด้วยผลประโยชน์ทางการเงิน
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงวางแผน ส่งสายลับติดต่อล่อซื้อรถของผู้เสียหาย จากทางเพจดังกล่าว ก่อนนัดหมายดูรถกันที่ ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร เมื่อเห็นว่าเป็นรถของผู้เสียหายจริง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา เครือข่ายดังกล่าว กลุ่มแรกจำนวน 3 คน จากนั้นจึงขยายผลตามจับกุม ผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีก 4 คน ในจำนวนนี้มีนายทุนรับซื้อขายรถรายใหญ่รวมอยู่ด้วย
สอบสวนผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ มีเพียงบางส่วนที่ยังคงยืนกรานปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป