
ภายหลังตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุม 3 ผู้ต้องหา ที่เชื่อมโยงกับการขายอาวุธให้ผู้ก่อเหตุอายุ 14 ปี นำใช้ไปก่อเหตุกราดยิง ที่สยามพารากอน ประกอบด้วย นายสุวรรณหงษ์ (สงวนนามสกุล) และ นายอัครวิชญ์ (สงวนนามสกุล) 2 พ่อลูกชาว ยะลา ซึ่งเป็นผู้ดัดแปลงปืน และขายปืนเเบลงค์กัน และนายปิยะบุตร (สงวนนามสกุล) คนขายกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน เเละ ควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจ
6 ตุลาคม 2566 พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.ยานนาวา เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนของ สน.ปทุมวัน มาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นเรื่องของการที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุอายุ 14 ปี ก่อนเอาไปใช้ก่อเหตุจริงหรือไม่เท่านั้น ซึ่งใช้เวลาสอบปากคำเกือบตลอดทั้งคืน
สำหรับ สน.ยานนาวา จะเริ่มสอบปากคำ ช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งในชั้นจับกุมนั้น นายสุวรรณหงษ์(พ่อ) และ นายอัครวิชญ์(ลูก) ซึ่งถูกจับได้ในพื้นที่ จ.ยะลา ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่พนักงานสอบสวนมีหลักฐานสามารถเอาผิดได้อย่างแน่ชัด มีหลักฐานสลิปการโอนเงิน สอดคล้องกับการซื้อขายอาวุธปืนไปใช้ก่อเหตุ รวมไปทั้งหลักฐานชิ้นอื่นๆ ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วันนี้จะขยายผลเรื่องอาวุธปืนว่ามาจากไหน และ ผู้ซื้อนำไปใช้ทำอะไรบ้าง เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อ-ขายปืนดัดแปลง เฉลี่ยวันละ 100 กระบอก
ขณะเดียว ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติของนายปิยบุตร นำอาหาร น้ำดื่ม มาเยี่ยม เเละ พูดคุยนานประมาณ 10 นาที เเละ ปรึกษากับกับตำรวจในการขอประกันตัว เเละ ติดกำไรอิเล็กทรอนิกส์ โดยทางตำรวจให้คำเเนะนำ ไปให้ประกันตัวในชั้นศาล เเละ ให้เตรียมวงเงินไว้ประมาณคนละ1 เเสนบาท
ส่วนนายปิยะบุตร คนขายกระสุนปืน ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยวันนี้ตำรวจได้คุมตัวนายปิยบุตร มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อขยายผล เพราะก่อนหน้านี้นายปิยะบุตร ได้ขายเครื่องกระสุนปืนให้กับลูกค้าคนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการหาความเชื่อมโยง ว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของนายปิยะบุตร ได้นำเครื่องกระสุนปืนไปก่อเหตุร้ายแรงอย่างอื่นหรือไม่
ประชุมคดีกราดยิงพารากอน เตรียมออกหมายจับเพิ่ม 2-3 ราย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ยืนยันว่า วันนี้จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ อายุ 14 ปี เพิ่มเติมอีก 2-3 ราย แต่ยังไม่ใช่ผู้ปกครองหรือพ่อแม่ของเด็ก
ขณะที่ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 บอกสั้นๆ ว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลซึ่งหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินคดีทั้งหมด
เมื่อถามว่าบุคคลที่จะออกหมายจับ เป็นการขยายผลมาจากการซื้อขายปืน หรือเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง พล.ต.ต.นครินทร์ ยืนยันว่า หมายถึงทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะขยายผลทุกเรื่อง
ส่วนพ่อแม่จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก หรือไม่นั้น คงต้องเอาหลักฐานมาประกอบ หากมีความผิดเข้าข่ายอนุใดอนุหนึ่ง ก็จะดำเนินการทั้งหมด เช่น หากมีสิ่งใดที่ควรจะต้องทำแต่ไม่ทำ มีการละเว้นปฏิบัติหรือไม่ดูแล หากการกระทำนั้นครบองค์ประกอบก็จะเป็นความผิด โดยเบื้องต้นมีการสอบปากคำไปแล้ว แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ และยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำตามกระแสสังคม แต่ทำตามหลักฐาน