svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"รองหนึ่ง" เปิดใจหลัง "มินนี่" เปิดหน้าชน บอกความจริงคือความจริง

"รองหนึ่ง" พ.ต.อ.ภาคภูมิ เปิดใจอีกรอบ หลัง "มินนี่" เปิดหน้าชน บอกความจริงก็คือความจริง มองกรณีปล่อยรูป มีเจตนาทำตนและครอบครัวเสียหาย แถมติดใจวิธีการออกหมายจับหมายค้น

29 กันยายน 2566 สร้างความสั่นสะเทือนวงการสีกากีอีกครั้ง เมื่อ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ "มินนี่" ผู้ต้องหาคดีร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน และสมคบฟอกเงิน ซึ่งได้รับประกันตัว ในชั้นพนักงานสอบสวน

หลังตำรวจชุด PCT 4 เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 66 ได้บินด่วนจากสิงคโปร์ ออกมาเปิดใจว่า ไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน พร้อมขอความเป็นธรรม กรณีภาพส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ ที่ถูกตำรวจยึดไป ถูกนำมาเผยแพร่ให้กับสื่อมวลชน รวมถึงปมความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 ลูกน้องของ "บิ๊กโจ๊ก" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ "มินนี่"
 

ซึ่งกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยภายหลังจากที่ มินนี่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) ว่า ตได้ดูแล้ว และข้อเท็จจริงก็เป็นจริงตามนั้น เป็นคำพูดของน้องเขา ความสัมพันธ์ก็เป็นไปตามนั้น 

ส่วนจะมีผลต่อรูปคดี ที่ ทนายอนันตชัย ไชยเดช กำลังต่อสู้ให้หรือไม่นั้น มองว่า คงไม่เป็นไร เพราะน้องเขาคงพูดความจริงทั้งหมด มันเป็นความจริงก็คือความจริง 
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4  

ส่วนกรณีที่ มินนี่ ระบุว่า ตอนถูกจับแล้วถูกตำรวจ PCT 4 บังคับให้เขียนยอมรับว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ เกี่ยวข้องด้วย ตนทราบหรือไม่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า พอ มินนี่ ถูกจับ ตนก็ยังไม่ได้คุยกับมินนี่อีกเลย และพอตนได้ฟังจากที่ มินนี่ ให้สัมภาษณ์ว่า มีตำรวจบังคับให้เขียนข้อความรับสารภาพนั้น ก็มองว่า ความเสียหายจะเกิดขึ้น 2 ส่วน

ส่วนแรกน้องเขาต้องเสียหาย ที่จะต้องถูกบังคับ ถูกอะไรก็ตาม ตามที่เขากล่าว และอีกส่วนคือ ภาพที่หลุดออกมา เขาก็เสียหายอีกครั้ง เพราะข้อเท็จจริงแล้ว การเก็บพยานหลักฐานทำโดยตำรวจ แล้วหลุดไปอยู่ในมือบุคคลภายนอก เจตนาของเขาคืออะไร ทำไมไม่เอาไปใช้เป็นพยานในคดีเท่านั้น และการออกมาเปิดเผย มันจะคิดเป็นเจตนาอื่นอย่างไร
 

อีกคนที่เสียหายคือผม และครอบครัวของผม ซึ่งในทางคดีก็ว่าไป แต่การเอารูปออกมา ก็ลองคิดดูว่า เจตนาของเขาคืออะไร คงไม่ได้สนใจเรื่องคดี แต่ผมมองว่า คงต้องการให้เกิดความเสียหาย


มินนี่ กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ
 

เมื่อถามว่า มีการวางแผนหรือทำให้เสียหาย หรือดิสเครดิตมานานแล้วหรือไม่ เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ มินนี่ ถูกจับกุมในช่วงเดือน ก.ค. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า คงไม่ไปกล่าวหาอย่างนั้น หากมีพยานหลักฐาน ก็ว่าไปตามกระบวนการ ตนเป็นตำรวจ ก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามา
 

วิธีการคือสิ่งที่ผมเองติดใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายจับ และการออกหมายค้นต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น และพอยิ่งมาฟังที่ มินนี่ ให้สัมภาษณ์อีก ก็มองว่า มินนี่ คงต้องไปให้การเป็นพยานเพิ่มเติม ในเรื่องนี้อีก


ส่วนจะต้องนัดพูดคุยกับ มินนี่ เพื่อหารือทิศทางการต่อสู่คดีหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า ในการต่อสู้คดีของตนกับ มินนี่ คงแยกกัน เพราะคดีของเขาว่าไปแล้ว คดีของตนเพิ่งเริ่ม ซึ่งก็ต้องดูในอนาคต และตนก็คงต้องให้ทนายดำเนินการ
ภาพขณะตำรวจ PCT เข้าจับกุม มินนี่