"นายเอ็ม" โทรหาพ่อก่อนถูกจับ ยอมรับปลิดชีพลูก เพราะไม่ชอบเสียงเด็กร้อง
นายเอ็มโทรหาพ่อก่อนถูกจับ สารภาพปลิดชีพน้องโมเดล เพราะไม่ชอบเสียงเด็กร้อง ด้านพ่อยอมรับ เคยโดนลูกชายทำร้าย จนขาดการติดต่อไป 25 ปี เผย พฤติกรรมวัยเด็กชอบใช้ความรุนแรง
จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญฆ่าโบกปูนเด็ก 2 ขวบ โดยตำรวจได้จับกุมนายส่องศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี หรือนายเอ็ม และ น.ส.สุนัน (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พร้อมทั้งเชิญตัว น.ส.เจษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อดีตภรรยามาสอบสวนขยายผลจนทราบว่านายเอ็ม ได้ลงมือสังหารลูกของ น.ส.เจษฎา อีก 4 คน ก่อนตำรวจจะพาตัว น.ส.เจษฎา ไปชี้จุดทิ้งศพ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
21 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับพ่อของนายเอ็ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ จ.ตรัง เปิดเผยว่า ตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายเอ็ม ขาดการติดต่อกับครอบครัว 25 ปีแล้ว เพราะตัดลูกตัดพ่อกันไปตั้งเเต่ที่นายเอ็มเคยทำร้ายตน จึงไม่รู้ว่ามีลูกมีเมียกี่คนและไปอาศัยอยู่ที่ไหน
จนกระทั่งวันที่ 19 กันยายน มีเบอร์แปลก ๆ เข้ามา ก็รับสาย ปรากฎว่าเป็นนายเอ็ม บอกกับพ่อว่าฆ่าลูกของตัวเอง เขาบอกว่าสำนึกผิดไม่รู้จะทำอย่างไร พ่อจึงให้คำแนะนำว่าให้ไปรับกรรม ก็ไปพบตำรวจและมอบตัว เเต่เขาถูกตำรวจจับเสียก่อน
ได้สอบถามว่าทำไมถึงได้ฆ่าลูกของตัวเอง นายเอ็มบอกว่า ไม่ชอบเสียงเด็กร้อง เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องก็จะมีอาการไม่พอใจจึงลงมือฆ่าลูกของตัวเอง น้องโมเดลอายุสองขวบ
ส่วนกรณี น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 3 อ้างว่านายเอ็ม ได้ฆ่าลูกอีก 4 คน เรื่องนี้พ่อของนายเอ็ม ไม่เชื่อว่าลูกชายจะลงมือก่อเหตุ และไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงเป็นผู้ก่อเหตุเองหรือไม่ อยากให้ตำรวจตรวจสอบให้ละเอียดว่าเป็นฝีมือของลูกชายตนหรือไม่ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเขาทำลูกเขาเเค่คนเดียว
สำหรับพฤติกรรมตั้งแต่วัยเด็กนายเอ็มเป็นเด็กที่ร่าเริง แต่พอเข้าวัยรุ่นเริ่มชอบใช้ความรุนแรงมีการชกต่อยกับเพื่อนวัยรุ่นบ้าง พอเริ่มโตก็มีการทำร้ายร่างกายคนในบ้านหากไม่พอใจ
ครั้งล่าสุดก็ทำร้ายร่างกายพ่อ จนทำให้นายเอ็มหนีออกจากบ้าน หลังจากนั้นมาครอบครัวก็ไม่ติดต่อนายเอ็มอีกเลย จนกระทั่งมาทราบข่าว จากนี้ก็ขอให้ตำรวจดำเนินการตาม กฏหมายและจะไม่ขอยื่นประกันตัวใดใดทั้งสิ้น
