
ภายหลังตำรวจสอบสวนกลาง วิสามัญฆาตกรรม นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง ท่าผา" ลูกน้องคนสนิทของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต ขณะมาร่วมรับประทานอาหารในงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำเดือน ที่บ้านกำนันนก ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม
เนชั่นออนไลน์พาไปสรุปไทม์ไลน์ของคดีนี้
ปฐมบทงานเลี้ยงเลือด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 6 กันยายน 2566 "หน่อง ท่าผา" ได้ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่ถูกช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลนครปฐม ก่อนที่ พ.ต.ต.ศิวกร จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม ลงพื้นที่ไล่ล่า "หน่อง ท่าผา" และ "กำนันนก" ทันที
สอบปากคำพยาน หาปมเหตุยิงตำรวจ
พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ระหว่างที่กำลังดื่มสังสรรค์กัน เห็นกำนันนก พูดคุยกับพ.ต.ต.ศิวกร ต้องการให้ช่วยสับเปลี่ยนตำแหน่ง จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พ.ต.ต.ศิวกร และเป็นญาติกับกำนันนก จาก "สายตรวจรถวิทยุ เป็นสายตรวจจักรยานยนต์" แต่พ.ต.ต.ศิวกร ปฏิเสธ ทำให้กำนันนก เสียหน้าและฉุนหนัก ลูกขึ้นตบโต๊ะแล้วพูดว่า "ขอมันคนเดียว มันเป็นหลานผม" ก่อนที่กำนันนก จะย้ายไปอีกโต๊ะ แม้พ.ต.ต.ศิวกร และ จ.ส.ต.พิสิฐ จะเดินไปไหว้ขอโทษ แต่ดูเหมือนกำนันนก จะยังไม่หายโกรธ
กระทั่งเวลา 21.10 น. หน่อง ท่าผา ได้เดินมายืนข้าง พ.ต.ต.ศิวกร ใกล้กันประมาณ 1 เมตร ก่อนใช้อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ไม่ทราบขนาด จ่อยิงไปที่ พ.ต.ต.ศิวกร จำนวนหลายนัด จนล้มฟุบไป กระสุนยังไปโดน พ.ต.ท.วศิน ได้รับบาดเจ็บ
มีตำรวจหลายนายนั่งร่วมโต๊ะ ยังเหิมเกริมก่อเหตุ
จากข้อมูลของพยานพบว่า ขณะเกิดเหตุมีตำรวจนั่งร่วมโต๊ะกับ พ.ต.ต.ศิวกร ประกอบด้วย
ศาลออกหมายจับ "หน่อง ท่าผา" เร่งไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด
ช่วงเช้าวันที่ 7 กันยายน 2566 ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นายธนัญชัย หมั่นมาก ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยจัดกำลังปิดล้อมจุดต้องสังสัย เพื่อกดดันติดตามตัวมือปืน และกำนันนก
ออกหมายจับ "กำนันนก" ใช้ผู้อื่นยิงสารวัตรทางหลวง-ตำรวจค้นบ้านไม่เจอตัว
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน (7 กันยายน 2566) ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ในความผิดฐาน "เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น" ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. นำกำลังตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจสอบสวนกลาง และชุดหนุมาน เข้าค้นบ้านกำนันนก พบเพียงครอบครัวและญาติ รวมถึงลูก ๆ อยู่ภายในบ้านพัก
"กำนันนก" เข้ามอบตัว ปฏิเสธไม่ได้สั่งยิง
ต่อมาเวลา 16.21 น. ทนายความพากำนันนก เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งนี้ กำนันนก ยังได้ทำหนังสือ ขอแสดงตนต่อพนักงานสอบสวน ส่งถึง ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องเหตุยิงสารวัตรทางหลวง ทั้งนี้ ภายหลังสอบเครียดนานกว่า 6 ชั่วโมง ตำรวจได้คุมตัวกำนันนก ออกมาจากห้องสืบสวน ไปควบคุมไว้ที่ ห้องขังของ สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งกำนันนก ปฏิเสธตอบคำถามสื่อทุุกประเด็น
นาทีจับตาย "หน่อง ท่าผา" ยิงต่อสู้ตำรวจ
ขณะเดียวกันตำรวจสอบสวนกลาง ยังคงติดตามไลล่า "หน่อง ท่าผา" อย่างกระชั้นชิด โดยมีรายงานว่า หลังก่อเหตุนายหน่อง ได้ขับรถกลับไปที่บ้าน โดยบอกเมียว่าไปยิงคนมา แต่ไม่ได้บอกว่ายิงตำรวจ จากนั้นได้ถอดสร้อยคอกับพระฝากเมียไว้
จากนั้นนายหน่อง ได้พยายามขับรถหนีไปเรื่อย ๆ วนอยู่ในพื้นที่ ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจแกะรอยทราบว่านายหน่อง ไปกบดานอยู่บริเวณ ซอยโรงเจร้าง หลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังไปปิดล้อม
แต่นายหน่อง ยิงปืนต่อสู้เพื่อเปิดทางหลบหนี จึงเกิดการยิงปะทะกันชั่วครู่ เมื่อสิ้นเสียงปืนก็พบร่างนายหน่อง นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณข้างรถกระบะของตนเอง ในสภาพสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีอาวุธปืนสั้นตกอยู่ข้างลำตัวฝั่งซ้าย
คุมตัว "กำนักนก" เข้ากองปราบ เจ้าตัวสีหน้าเครียด ไม่ตอบคำถามสื่อ
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (8 กันยายน 2566) ตำรวจคุมตัว "กำนันนก" ออกจาก สภ.เมืองนครปฐม หลังโอนสำนวนคดียิงสารวัตรทางหลวง ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม ทั้งนี้ พบว่ากำนันนก ได้เปลี่ยนเสื้อจากสีขาวเป็นสีดำ มีสีหน้าเคร่งเครียด และสภาพดูอิดโรย นักข่าวพยายามเข้าไปสอบถามหลายคำถาม แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ
บิ๊กโจ๊ก เรียกสอบ 21 ตำรวจร่วมงานเลี้ยง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำหรับคดีหลักในการยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของตำรวจกองปราบปราม หลังจากมีการโอนสำนวนคดีไปให้ดำเนินการ ส่วนคดีที่เกี่ยวกับความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 หรือไม่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 21 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ จะแยกมาอีกสำนวน โดยมีตนเองเป็นผู้กำกับดูแล และให้ทางสภ.เมืองนครปฐม เป็นผู้สอบปากคำ และจะเรียกตำรวจทั้ง 21นาย มาสอบปากคำในวันนี้ ซึ่งจะต้องรอผลการสอบปากคำทั้งหมดก่อน