"บิ๊กโจ๊ก" เชื่อ "หน่อง ท่าผา" ยังหลบหนีในพื้นที่ ขัดขืนจัดการขั้นเด็ดขาด

7 กันยายน 2566 ความคืบหน้า คดีอุกฉกรรจ์ ที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี หรือ "หน่อง ท่าผา" ลูกน้องคนสนิท นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ

ภายในงานเลี้ยง พื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อช่วงดึกวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หลัง กำนันนก ไม่พอใจ ที่ขอให้ พ.ต.ต.ศิวกร ช่วยย้ายตำแหน่งให้หลานชาย แต่ไม่ พ.ต.ต.ศิวกร ไม่ทำให้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "กำนันนก" รวยระยับ เปิดขุมทรัพย์กำนันดัง ทำธุรกิจ 5 ปี รายได้ 2,300 ล้าน
• ปมส่วยยิงดับ "สว.ทางหลวง" พร้อมเปิดสัมพันธ์ "หน่อง ท่าผา - กำนันนก" (มีคลิป)
• "กำนันนก" มอบตัวคดี "ยิงตำรวจทางหลวง" ปิดปากไม่พูดกับสื่อ (มีคลิป) 

 

ซึ่งต่อมา ตำรวจได้มีการออกหมายจับทั้ง "หน่อง ท่าผา" และ "กำนันนก" ก่อนที่ในช่วงเย็นวันนี้ (7 ก.ย.) "กำนันนก" จะเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม พร้อมปฏิเสธสั่งการลูกน้อง คนลงมือก่อเหตุ ขณะที่ในส่วนของมือปืน ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว 

 

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่ สภ.เมืองนครปฐม พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากที่ กำนันนก เข้ามอบตัว ทางตำรวจได้มีการสอบสวนเบื้องต้น กำนันนก ยังให้การอ้างว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้ และยังให้การไม่ได้เป็นประโยชน์

แต่แม้จะให้การไม่เป็นประโยชน์ ตำรวจ ก็สามารถเอาผิดได้ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และการสอบสวนพยานบุคคล พร้อมทั้งร่องรอยการใช้อาวุธปืน ที่จะเป็นเหตุให้สามารถแจ้งข้อหาได้
รวมถึงการสอบปากคำว่า ใครสั่งให้ทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งจากการสอบปากคำชัดเจนว่า คนที่สั่งคือ "กำนันนก" ดังนั้นก็ถือว่า มีความผิดในฐานร่วมกันกระทำความผิด
 

และจากการการรวจค้นบ้านกำนันนก และบ้านของ "หน่อง ท่าผา" วันนี้พบอาวุธปืน โดยพบที่บ้านกำนัน นก 10 กระบอก และบ้านนายหน่อง พบอาวุธปืน 1 กระบอก แต่อาวุธปืนที่พบ ไม่ใช่กระบอกที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุคือ กล๊อก ซึ่งนายหน่องเอาติดตัวไปด้วย

ขณะนี้เชื่อว่า นายหน่อง ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม และราชบุรี ยังไปไม่ถึง จ.กาญจนบุรี ไม่ได้ไปไหนไกล ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การติดตามตัวผู้ต้องหาให้ได้ และคิดว่า จะได้ตัวในเร็ววัน ส่วนจะหลบหนีอยู่ในบ้านของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีคนช่วยเหลือ เป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่ด้วย และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว พร้อมยืนยันว่า หากนายหน่องมีการต่อสู่ขัดขืน พร้อมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะผู้ต้องหามีอาวุธปืนติดตัว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนการสอบปากคำ ตำรวจ 21 นาย ที่อยู่ในวันเกิดเหตุ เบื้องต้นมีการสอบปากคำไปบางส่วน แต่ยังให้การไม่ตรงกัน โดยในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) จะเรียกทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่า มีใครเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แล้วละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ ก็จะถูกลงโทษ 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่เกิดเหตุพบว่า มักจะมีตำรวจไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์เป็นประจำทุกเดือน ส่วนจะพูดคุยเรื่องอะไรนั้น อยู่นะหว่างการตรวจสอบ แต่เนื่องจากกำนันนก ทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำถนน การลาดยาง จึงต้องมีการติดต่อกับตำรวจทางหลวง แต่เบื้องต้น ยังไม่พบเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจสีเทา โดยจะต้องตรวจสอบอีกครั้ง

ส่วนการมีอำนาจเรื่องการโยกยัายตำรวจในพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่จะต้องเรียกตำรวจชั้นประทวน ที่เป็นต้นเรื่องง ให้ช่วยในการโยกย้าย มาสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.)  พร้อมยืนยัน วันนี้จะต้องตรวจสอบขยายผล เครือข่ายกำนันนก ทั้งหมด เพื่อหาความเชื่อมโยง เส้นทางการเงิน โดยจะทำชุดใหญ่ เพราะนครปฐมเป็นพื้นที่แหล่งอิทธิพลมานานแล้ว ต้องปราบปรามเอาจริงเสียที
 

ด้าน นายเชาว์ แก่นสวาท ทนายความกำนันนก เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำ "กำนันนก" อยู่ และยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ยืนยันว่า กำนันนกปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ได้เครียดอะไร ยังให้การได้ ส่วนขั้นตอนต่อไปค่อยว่ากันหลังจากนี้ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ "กำนันนก" ไม่ได้ติดต่อ "หน่อง ท่าผา" และไม่ได้หนีไปไหน อยู่บ้านตามปกติ ส่วนเรื่องจดหมายที่เขียนรายงานนั้น ไม่ขอตอบ ก่อนยืนยันว่า ไม่กังวลอะไร