
3 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมผู้เสียหาย 3 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เสวก บุญจันทร์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อยื่นเรื่องขอให้ช่วยติดตามจับกุม นายจิรากร (สงวนนามสกุล) หลังถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ป้ายแดงคนละ 5-6 คัน อ้างจะนำไปปล่อยเช่า ก่อนจะเชิดรถหนีไป ทำให้ถูกไฟแนนซ์รถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย คนละ 5-6 ล้านบาท
น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี แม่ค้าออนไลน์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ปลายปี 2564 นายจิรากร ใช้แอพพลิเคชั่นหาคู่ ติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา กระทั่งไว้เนื้อเชื่อใจ คบหาเป็นแฟนกัน ยอมย้ายไปอยู่กับเขาที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งอ้างว่าเปิดบริษัทให้เช่ารถยนต์อยู่ที่นั้น ด้วยความที่รัก จึงยอมย้ายไปอยู่กินด้วยกัน
หลังจากนั้นไม่นาน นายจิรากร ขอให้ช่วยทำเรื่องซื้อรถยนต์ รถจยย.ป้ายแดง จำนวน 6 คัน อ้างว่าจะนำไปปล่อยเช่า แต่เขาไม่สามารถซื้อรถเป็นชื่อของตัวเองได้ เพราะเพิ่งซื้อรถไปยังไม่ครบ 6 เดือน จึงต้องให้ตนเป็นคนซื้อให้ พร้อมกับยืมเงินไปอีก 895,000 บาท อ้างว่าไปจ่ายจ้างพนักงาน ด้วยความไว้ใจจึงยอมทำตาม
กระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 3 เดือน ไฟแนนซ์รถ โทรมาทวงค่างวดของรถทุกคันที่มีชื่อตนเป็นคนเช่า เพราะไม่มีการส่ง ตนถามนายจิรากร แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงว่าเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ ก่อนจะเริ่มตีตัวออกห่างแล้วหนีหายขาดการติดต่อไปในที่สุด ทิ้งภาระหนี้สินกว่า 4.6 ล้านบาท ให้ตนแบกรับไว้เพียงลำพัง ก่อนที่ต่อมาตนจะมารู้ในภายหลังว่า นอกจากตนแล้วยังมีหญิงสาวอีกเกือบ 20 คน ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน
“เท่าที่ตนรู้มา เหยื่อหญิงสาวอีกราย ถูกหลอกจนเป็นหนี้ หนักจนถึงขั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้า จากการที่ต้องสูญเสียแม่ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดที่เห็นลูกสาวไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้”
ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เหยื่ออีกรายจาก จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า เขาตัดสินใจคบหา เพราะเห็นว่าเขาเทคแคร์ดี เอาใจใส่ พูดจาเพราะ แต่ไม่นาน นายจิรากรก็เริ่มออกลาย บอกมีธุรกิจปล่อยเช่ารถ แต่ขาดเงินทุนหมุนเวียน อยากให้ตนช่วยโดยไม่ต้องลงเงิน แค่ไปซื้อรถเป็นชื่อตนมาให้กับเขาปล่อยเช่า เป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง รวม 7 คัน แต่หลังจากได้รถไปแล้วกลับตัดยาดการติดต่อจนทำให้ตนต้องกลายเป็นหนี้กว่า 5 ล้านบาท
ด้านน.ส.ซี (นามสมมุติ) เหยื่อสาว ขอนแก่น วัย 38 ปี เล่าว่า นายจิรากร อ้างเป็นตำรวจ ปส.นอกเครื่องแบบ และใช้อุบายเดียวกัน คือธุรกิจปล่อยเช่ารถ ขาดสภาพคล่อง และอยากให้ตนมาร่วมลงทุนด้วย ตอนแรก อ้างค่าจ้างลูกน้อง ค่าทำรถ ซ่อมรถ ตนก็โอนไปให้ตลอดเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านบาท จนไม่มีเงิน นายจิรากร บอกให้ช่วยซื้อรถไปปล่อยเช่า ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง รวม 6 คัน จนต้องกลายป็นหนี้รวมกว่า 4 ล้านบาท
นายรณรงค์ ชี้พฤติกรรมนายจิรากร จะทำตีสนิทหญิงสาวผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ เมื่อเหยื่อเริ่มไว้ใจก็จะออกลายชักชวนร่วมลงทุนธุรกิจปล่อยรถเช่า เมื่อได้รถมาแล้วก็จะเชิดหนีหายไปหาเหยื่อรายใหม่ ที่ผ่านมา มีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อร่วม 20 ราย ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ มีการเข้าแจ้งความไว้แล้วในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถตามจับกุมได้ วันนี้จึงตัดสินใจพาตัวผู้เสียหายมายื่นร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวตกองปราบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป