svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ป.ป.ส. ทลายขบวนการขนยาไปประเทศที่สาม ยึดไอซ์หนักเกือบตัน

ป.ป.ส. บุกทลายแหล่งพักยา พื้นที่ จ.ราชบุรี ยึดไอซ์ 960 กิโลกรัม บรรจุ 40 กระสอบ พร้อมรวบ 7 ผู้ต้องหา หลังเตรียมขนส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ขณะที่ “ส.ส.อิ่ม” พรรคเพื่อไทย ร่วมสังเกตการณ์ เผย จนท.ต้องทำงานหนัก

28 มิถุนายน 2566  ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ร.ท.สิทธิชัย ต่างใจ รองเลขาธิการทหารเรือ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. น.อ.อนันท์ สุราวรรณ์ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 บช.ปส. และ พ.อ.มารุต เปล่งขำ ผอ.กอง 12 สำนักปฏิบัติการข่าว ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ร่วมแถลงจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ เป็นผู้ต้องหาชาวไทย 7 ราย อายุประมาณ 30 ปี 

พร้อมยึดของกลางเป็นไอซ์ 960 กิโลกรัม ในบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เชื่อว่าใช้เป็นสถานที่เก็บพักยาเสพติด ก่อนเตรียมส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม

นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการนี้ ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วย SEAL กองทัพเรือ และตำรวจปราบปรามยาเสพติด สืบเนื่องจากการตรวจจับยาไอซ์ 1.2 ตัน ในพื้นที่ อ.นาหม่อม จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยยาเสพติดล็อตดังกล่าว ถูกลำเลียงมาจากภาคเหนือ และเตรียมส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย 

ป.ป.ส. ทลายขบวนการขนยาไปประเทศที่สาม ยึดไอซ์หนักเกือบตัน

ต่อมา ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตามสืบสวนกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด และสามารถขยายผลจนสืบทราบว่า กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดลักลอบเก็บพักยาเสพติดไว้ในพื้นที่ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 ราย พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์จำนวน 960 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบ 24 ใบ ซึ่งแต่ละกระสอบจะบรรจุยาไอซ์ กระสอบละ 40 กิโลกรัม

นายวิชัย กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า ขบวนการยาเสพติดเตรียมทยอยนำยาเสพติดออกจากพื้นที่เก็บพัก เพื่อลำเลียงผ่านภาคใต้ไปยังปลายทางประเทศที่สาม โดยหลังจากนี้ ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการสืบสวน เพื่อหาเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่สาม

โดยจะประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และตำรวจนิวซีแลนด์ ซึ่งประเทศเหล่านี้คาดหมายว่า น่าจะเป็นประเทศปลายทางของยาเสพติดดังกล่าว

ป.ป.ส. ทลายขบวนการขนยาไปประเทศที่สาม ยึดไอซ์หนักเกือบตัน

นายวิชัย ระบุอีกว่า ป.ป.ส.เฝ้าติดตามขบวนการนี้มากว่า 6 ปี โดยยาไอซ์จำนวนนี้ เป็นการทยอยขนมาจากหลายแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านทางตอนเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มว้า เขตพื้นที่รัฐฉานและสามเหลี่ยมทองคำ จากนั้นลำเลียงเข้ามาทางชายแดนตอนเหนือของประเทศ ทยอยขนเข้ามาโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน แต่ไม่ได้มีเป้าหมาย เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด

นายวิชัย ยังระบุถึงวิธีการขนยาเสพติดในประเทศว่า จะทยอยขนผ่านการซุกซ่อนในรถ หรือลักลอบขนตามพื้นที่ป่าเขาแล้วนำมาพักไว้ที่จังหวัดราชบุรี ก่อนที่จะขนลงไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเตรียมส่งต่อไปยังประเทศที่สาม หากขนไปยังมาเลเซีย จะใช้วิธีซุกซ่อนในรถบรรทุก ส่วนถ้าหากขนไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกา จะใช้วิธีการลำเลียงผ่านทางเรือเล็ก และขนถ่ายลงเรือใหญ่ในน่านน้ำสากล

“ผู้ต้องหาทั้ง 7 เป็นคนไทย จากภาคกลาง มารับจ้างเฝ้า และลำเลียงยา ซึ่งอยู่ระหว่างควบคุมตัวและเตรียมสอบปากคำเพื่อขยายผลต่อไป เชื่อว่าน่าจะมีขบวนการในประเทศไทยที่คอยทำหน้าที่ขนถ่าย และน่าจะมีขบวนการใหญ่เป็นเครือข่ายอยู่ในต่างประเทศ เบื้องต้น มูลค่ายาไอซ์ไม่สามารถประเมินได้ แต่ในต่างประเทศน่าจะมีราคาสูงถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับเงินไทย” เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุ

 

ด้านนายปฤณ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. กล่าวว่า ทั้ง 7 ผู้ต้องหานั้นเราติดตามจับกุมได้เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) โดยมีพฤติการณ์เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดอย่างเดียว รับช่วงต่อจากที่พักในจังหวัดราชบุรี เพื่อลำเลียงต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ ก่อนจะมีคนไปรับยาเพื่อนำส่งประเทศที่สาม อาทิ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศญี่ปุ่นเป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม เราสามารถทำการจับกุมได้ก่อน จึงทำให้ยังไม่ทราบว่า เตรียมขนไปยังประเทศปลายทางใด ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย อยู่ระหว่างการสอบปากคำ ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่เราเตรียมออกหมายจับต่อไป หากมีการขยายผลจนพบข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน

ป.ป.ส. ทลายขบวนการขนยาไปประเทศที่สาม ยึดไอซ์หนักเกือบตัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศในงานแถลงข่าว ยังมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ หรืออิ่ม ส.ส.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมการสังเกตการณ์ และเป็นตัวแทนตรวจสอบสารเสพติดของกลาง พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่เสมอ จึงได้เห็นว่าสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชนนั้น สามารถหาซื้อง่ายมากขึ้น และยังเข้าถึงเยาวชนง่ายดายขึ้น บางครั้งตนได้รับรายงานว่า เด็ก และเยาวชนมีการนั่งเสพหรือที่พี้สิ่งเสพติดบริเวณหน้าบ้านด้วย 

วันนี้ตนจึงมาดูว่า หน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้นตอบโจทย์หรือไม่ หรือมีเครื่องมืออย่างไรบ้างขาดเหลือในส่วนใดบ้างหรือไม่ จึงได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนักมากๆ 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย เราต้องเน้นที่การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ต้องนำผู้เสพติดเข้ารับการบำบัดให้หายขาด เพราะเรื่องยาเสพติดในชุมชนถือเป็นปัญหาอันดับต้นๆที่เราต้องเร่งแก้ไขจากเส้นเลือดฝอย และขยับไปสู่ผู้ค้าตัวหลักต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนยังได้รับฟังเสียงสะท้อนของเด็กๆและเยาวชนด้วยว่า พวกเขาเองก็อยากมีส่วนร่วมในการสนับสนุนปราบปรามยาเสพติด หรือออกแบบกลไกป้องกันยาเสพติด

ป.ป.ส. ทลายขบวนการขนยาไปประเทศที่สาม ยึดไอซ์หนักเกือบตัน