กทม.เปลี่ยนดับเพลิงCO2ล็อตแรก 9,979 ถัง ก่อนปูพรมทุกชุมชนทั่วกรุงฯ

25 มิถุนายน  2566 เวลา 18.30 น. ที่วัดแคนางเลิ้ง รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กรณีเรื่องความปลอดภัยของถังดับเพลิงในพื้นที่ กทม.ว่า ขณะนี้ทางสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกำลังปูพรมพยายามตรวจถังเคมี ที่อยู่ในชุมชนทั้งหมดให้ได้ 100%  ซึ่งยังไม่มีโอกาสสื่อสารกับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เนื่องจากเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการเขตติดการอบรม การบัญชาการเหตุการณ์และปรับความรู้เรื่องสาธารณภัย ให้เข้ากับมาตรฐานกลางของกรมป้องกัน โดยจะให้ประธานชุมชนวางแผนร่วมกัน สถานีดับเพลิง ของกทม. โดยปกติ 1สถานีจะดูแล ทั้งสำนักงานเขตและชุมชนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องร่วมกันตรวจทางเคมีที่อยู่ในชุมชนทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ผกก.นางเลิ้ง เล็งเรียกสอบเพิ่ม ผปค.ราชวินิต

• ชุดสาธิตซ้อมดับเพลิง ร่ำไห้ขอโทษครอบครัวน้องเบนซ์ ไม่คาดคิดจะเกิดเหตุสลด

• ศาลให้ประกัน 3 นักดับเพลิง คดีประมาททำถังดับเพลิงบึ้มใส่นักเรียน

รศ.ทวิดา กล่าวอีกว่า ขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่มีถัง คาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในตามชุมชน ในการทำครั้งนี้เนื่องจากกรุงเทพมหานคร 1 ปีที่ผ่านมาได้ทำผังดิจิทัลชุมชน.และมีลิสต์แมพ แผนที่ความเสี่ยง ดังนั้นเมื่อออกไปสำรวจคุณภาพถัง สภาพถัง รวมทั้งเก็บถังที่เสื่อมชำรุด ใช้การไม่ได้แล้ว ซึ่งอาจจะสั่งมาตั้งแต่ปี 2547 2548 แนะนำกลับมาที่สำนักงานเขต เพื่อให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมเก็บและกำจัดอย่างถูกต้อง 

ถังที่จะยังอยู่ในชุมชนจะต้องเป็นถังที่ใช้งานได้แน่นอน หรืออันไหนที่จะต้องเติมสารเคมีหรือผงเคมีแห้งจะต้องปรับปรุง เรื่องของถัง เราจะทำทั้งหมด พร้อมกันนั้นแผนผังชุมชน จะบอกตำแหน่งของตัวถังได้อีกด้วย จะทำให้รู้ว่าทางดังกล่าวอยู่ ตรงจุดไหนและเป็นสารเคมีประเภทไหน โดยจะจัดระบบภายในวันจันทร์นี้ 26 มิ.ย. ให้เสร็จ แล้วจะเริ่มปูพรมร่วมกับสำนักงานเขต ช้าที่สุดจะเริ่มได้ในวันพุธที่ 28 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ครอบคลุมที่สุดที่จะเป็นไปได้

นอกจากนี้ ยังมีการสั่งถังดับเพลิงใหม่มาเพิ่ม 9,979 ถังซึ่งจะมาในปีงบประมาณนี้ ซึ่งการนำทางไปลงใหม่เพิ่มจะมีการนำ QR Code ไว้ที่ถัง ในการลงถังใหม่ จะลงที่ถูกนำถังกลับมาและพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ โดยเฉลี่ย 5 หลังคาเรือนจะต้องมีถังดับเพลิง 1 ถัง เพราะฉะนั้นเราวิเคราะห์พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอัคคีภัย การสำรวจครั้งนี้จะทำให้เรามีบัญชีและสามารถส่งมอบต่อให้ได้ การสั่งซื้อครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างแน่นอน จะไม่มีการเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นอีก ทั้งนี้จะทำให้มีแผนผังทรัพยากรไม่เฉพาะถังแดงแต่จะมีผังประปาหัวแดง ตำแหน่ง หากเกิดอะไรขึ้นไม่ว่าจะเป็นจุดรวมพลหรือสูญอพยพ โรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสาธารณสุข หรือศูนย์สร้างสุขสูงวัย อยู่สวนสุขภาพและชมรมผู้สูงอายุ ที่ใช้เป็นการ ระดมทรัพยากรหรือพักคน โดยทางนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้สั่งการให้เร่ง ควรจะต้องทำเสร็จให้ได้ภายในปีงบประมาณนี้

รศ.ทวิดา กล่าวอีกว่า ส่วนหากพบว่าถังไหนที่เสื่อมสภาพใช้การไม่ได้จะดำเนินการก่อนซึ่งจะเก็บทั้งหมด รวมทั้งจุดที่ทางหายไป ก็จะเข้าไปติดตั้งไว้ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ให้ สำนักงานเขตสำรวจ ก็จะมีชุมชนเสียงที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง มีกิจกรรมที่เสี่ยงสูง อยู่ประมาณ 491 ชุมชน ซึ่ง มีความเสี่ยงสูง

ทางกทม.ก็สั่งซื้อ ส่วนจำนวน 9,979 คำนวณจากความเสี่ยงของชุมชน ทำให้ต้องสั่งซื้อล็อตแรกก่อน เนื่องจากสถานที่อื่นยังพอมีใช้อยู่ หากเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่สั่งซื้อในรอบนี้ ก็จะเหลือในพื้นที่สีส้มและพื้นที่สีเหลือง รออยู่แล้ว ส่วนที่คำนวณมาโดยประมาณ 30,000 กว่าถัง ที่จะต้องนำไปติดตั้งอีก นอกเหนือจาก 9,979 ถัง เนื่องจากครั้งนี้เป็นการสำรวจใหม่ทั้งหมดซึ่งคาดว่าอาจจะมีเพิ่มมากกว่านี้

ทั้งนี้ นายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. แจ้งว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเร่งด่วนที่สุด ซึ่งหากทำได้ก็ให้รีบทำแต่จะต้องรอบคอบ และรัดกุมไม่ใช่เฉพาะกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแต่เป็นสิ่งของที่ได้มาต้องมีคุณภาพ มาตรฐานและต้องสามารถตรวจเช็คได้ ซึ่งการติดตั้งครั้งนี้จะมีขั้นตอนมากกว่าปกติ โดยจะต้องตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลาอีกด้วย รศ.ทวิดา กล่าว.