
19 มิถุนายน 2566 กลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท โดย พล.ต.ต.กัมพล ยังไม่ได้ให้การใดๆ กับพนักงานสอบสวน และจะขอส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรในทุกประเด็นภายใน 5 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งขณะนี้พบมีตำรวจเกี่ยวข้องในคดีนี้ 10 นาย มารายงานตัวแล้ว 9 นาย เหลืออีก 1 นายคือ พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สอบสวน สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยทั้งหมดที่มารายงานตัว พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ มาตรา 157 ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ มาตรา 149 เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ และมาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืน
สำหรับ ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. รวมอยู่ด้วย 2 คน ทั้งสองคนถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือมาตรา 157 และ มาตรา 309 แต่ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้ต้องหากล่าวหาใส่ร้าย และได้ไปแจ้งความกลับไว้แล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า พ.ต.ต.พรเทพ สนิทกับนายบอย ซึ่งเป็นคนเจรจาเรื่องเงินสินบน ที่จะมอบให้กับชุดจับกุม โดยขณะนี้หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ซึ่งในวันนี้(19 มิ.ย.) จะประสานกับทางสำนักงาน ป.ป.ง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายบอย และตามยึดทรัพย์สิน ที่พบว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งบ้านพัก ที่ดิน เรือ รถยนต์ เบื้องต้นพบแล้วกว่า 200-300 ล้านบาท
เรื่องนี้พบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก เนื่องจากหลังจากจับผู้ต้องหา ไม่มีการส่งตัวไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ แต่กลับนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ห้องทำงานของผู้บังคับการ ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหา ก็พบว่ามีการไปขอศาลถอนหมายจับ หลังจากที่ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว โดยอ้างต่อศาลว่า สายลับให้ข้อมูลผู้ต้องหาผิดคน หลังจากนี้เตรียมขยายผล จับผู้อื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม