ศาลยกฟ้อง คดี "อัจฉริยะ" ยื่นฟ้อง 48 ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-กลั่นแกล้งฯ
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง พิพากษายกฟ้องชั้นตรวจคำฟ้อง คดี "อัจฉริยะ" ยื่นฟ้องรองผู้การนนท์-ตำรวจภาค 1 รวม 48 คน ในคดีแตงโม นิดา ชี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ด้าน อัจฉริยะ เตรียมยื่นอุทธรณ์
6 มิถุนายน 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน นัดฟังคำสั่ง หรือ คำพิพากษา ในชั้นตรวจคำฟ้อง คดีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 48 นาย
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตาม ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ม.173 ฐานแจ้งความเท็จ และ ม.200 กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา ซึ่งคดีนี้นายอัจฉริยะ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฯ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
6 มิถุนายน 2566 คดีนี้สืบเนื่องจากนายอัจฉริยะ ถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีกล่าวหาแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ สร้างหลักฐานเท็จเกี่ยวกับผลชันสูตร "แตงโม" โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความรวม 3 พื้นที่ 6 คดี แบ่งเป็นพื้นที่ สน.พหลโยธิน 2 คดี, สน.ประชาชื่น 3 คดี และสภ.เมืองนนทบุรี 1 คดี ทำให้ตนได้รับโทษทางอาญา จึงได้ใช้สิทธิ์ฟ้องตำรวจ 48 นาย ต่อศาลว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะส่วนตัวเห็นว่าแจ้งดำเนินคดีกับตนนั้น ต้องได้รับมอบอำนาจจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก่อน แต่การแจ้งดำเนินคดีดังกล่าวไม่ได้มีการรับมอบอำนาจแต่อย่างใด
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง หรือ ไม่รับฟ้อง เนื่องจากศาลพิจารณาเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ พนักงานสอบสวนมีอำนาจในการรับคำร้องทุกข์ และมีอำนาจในการแจ้งความดำเนินคดี โดยหลังจากนี้ตนจะใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ ภายใน 1 เดือน เนื่องจากยังมีความเห็นแย้งหลายประเด็น ว่า
ตำรวจมีความชอบธรรมในการร้องทุกข์กล่าวโทษกับตนเองในคดีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาท ที่ถูกแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เนื่องจากพบว่าตำรวจได้มีการอ้างคำสั่งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในคดีแตงโม มาประกอบการแจ้งความร้องทุกข์ด้วย แต่กลับไม่ได้รับมอบอำนาจจากจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองตามขั้นตอนของกฎหมายอาญา
อีกทั้ง จากการสอบถามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่เคยมีการมอบอำนาจให้มาแจ้งความ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า หากไม่ได้รับมอบอำนาจตามขั้นตอน จะถือว่าเป็นการฟ้องร้องโดยส่วนตัวหรือไม่ และเป็นอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในการพิจารณาคดีหรือไม่ ซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลา 2-3 เดือน ในการเขียนคำอุทธรณ์ใหม่