“บิ๊กโจ๊ก” เผย 1 โรงงาน 6 บริษัทค้ารายย่อย ขาย “ไซยาไนด์” ให้แอม
“บิ๊กโจ๊ก”เผยหลังหารือกรมโรงงานฯ พบ 1 โรงงาน 6 บริษัทค้ารายย่อย จำหน่าย “ไซยาไนด์” ผิดวัตถุประสงค์ ชี้ 1 ใน 7 เชื่อมโยงคดี “แอม ไซยาไนด์” ซ้ำพบการซื้อเพื่อฆ่าตัวตาย 8 - 9 ราย เตรียมขยายผลก่อนส่งกลับให้กรมโรงงานฯ นำไปร้องทุกข์ดำเนินคดี ผู้จำหน่าย - เจ้าหน้าที่ที่รู้เห็น
24 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้าจากกรณีที่ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ไปสั่งซื้อสารไซยาไนด์ออนไลน์มาก่อเหตุฆาตรกรรมต่อเนื่อง นั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตำรวจภาค 7 สอบ"อาจารย์อ๊อด" มัดคดี"แอม ไซยาไนด์" เร่งปิดสำนวนส่งอัยการฟ้อง
- ศาลแนะรองฯโจ๊ก ออกหมายเรียกคนใกล้ชิด "แอม ไซยาไนด์"
- รองฯโจ๊ก เผยสำนวน "แอม ไซยาไนด์" เหลืออีก 10%
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าหารือกับ นายพรยศ กลั่นกรอง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เกี่ยวกับระเบียบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงมาตรการ การควบคุมดูแลการนำเข้า ควบคุม และจำหน่ายสารไซยาไนด์ ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่
โดยการหารือในครั้งนี้ จะมาตรวจสอบข้อมูลว่า มีบริษัท หรือโรงงานใดที่สั่งสารดังกล่าวแล้วนำไปจำหน่าย รวมถึงจะมีการหารือถึงข้อกฎหมายว่า จะเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง ในตัวของโรงงานที่นำไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์ หรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลก่อนหน้านี้พบว่า การดำเนินงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีความหละหลวม และพบช่องโหว่ทั้งในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตาม พ.ร.บ.ควบคุมวัตถุอันตราย
ซึ่งใช้เวลาในการหารือ ประมาณ 30 นาที ก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางตำรวจมีข้อมูล และหลักฐานที่เพียงพอในการดำเนินคดีกับโรงงาน หรือบริษัทที่จำหน่าย ซึ่งตอนนี้พบเพียง 1 บริษัทที่เป็นผู้นำสารเข้ามา แต่การจำหน่าย ทางกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าห้ามนำไปจำหน่ายต่อ
จึงทำให้มีโรงงาน และบริษัท รายย่อย จำนวน 6 เจ้า มาซื้อสารดังกล่าว ไปจำหน่ายต่อ และทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้สารคือ ใช้เพื่อการวิจัย และ เพื่อกิจการโรงงานเท่านั้น
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่นำเข้ามา มีการจำหน่ายไปอย่างถูกต้อง จำนวน 1,600 ขวด และยังพบว่า 6 ผู้ค้ารายย่อยซื้อไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์ จำนวนกว่า 100 ขวด ซึ่งในจำนวนนี้มีบางผู้ค้าบางคน จำหน่ายให้แอม รวมถึงยังพบด้วยว่า มีการจำหน่ายให้บุคคลทั่วไป เพื่อไปใช้ ในการฆ่าตัวตายประมาณ 8 ถึง 9 รายอีกด้วย
โดยหลังจากนี้ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปทำรายงานการสืบสวนแล้วส่งต่อกลับมาให้กรมโรงงานเพื่อให้นำไปร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้ค้ารายย่อย และโรงงานที่นำเข้า ที่ต้องรับผิดชอบในการจำหน่าย ผิดวัตถุประสงค์ ตามในข้อหา “มีไว้ในครอบครอง และจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์”
ทั้งนี้ทางตำรวจ มีข้อมูลรายชื่อของผู้ค้ารายย่อย และบริษัทที่นำเข้าทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่คนอื่นเกี่ยวข้องด้วย หรือไม่นั้นตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
