
11 เมษายน 2566 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เพื่อรณรงค์เมา พี้กัญชา ไม่ขับ ต่อต้านกัญชาเสรี และร่วมส่งประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยนายชูวิทย์ ได้เดินแจกสติ๊กเกอร์ เข็มกลัด "เราไม่เอากัญชา" ให้กับประชาชน พร้อมบอกกับประชาชนถึงโทษของกัญชา
นายชูวิทย์ บอกว่า ตนเองมาเดินทักทายส่งพี่น้องกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ และขออย่าไปเมา ไม่ใช่เมาเหล้า แต่มันมีเมากัญชาแล้ว และหากเมากัญชาก็ไม่มีอะไรที่จะมาตรวจสอบได้ ซึ่งมองว่า พรรคการเมืองที่เป็นต้นสังกัดเรื่องกัญชาจริง ๆ ก็น่าจะรู้ว่าในเรื่องของความพร้อมในการตรวจสอบที่ให้กัญชาออกมา เพราะบางครั้งก็จะพบเลยว่ามีบ้องกัญชาอยู่ในรถบ้างของประชาชน และมีการพี้กัญชา ทำให้มีผลต่อระบบสมอง และส่งผลต่อการขับขี่รถ
จากการที่ตนเองได้เดินรณรงค์ต่อต้านกัญชา และส่งประชาชนกลับบ้านได้พูดคุยกับชาวต่างชาติท่านหนึ่งมาจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ต่างตกใจพร้อมยืนยันว่า ประเทศของเขา ไม่ได้อนุญาตให้เสพกัญชาเสรี ทั้งนี้ มีประชาชนบางรายที่นายชูวิทย์ ได้พูดคุย ระบุว่า ปลูกกัญชาไว้หวังจะใช้รักษาโรคเบาหวาน ซึ่งนายชูวิทย์ ได้แนะนำว่า ให้ปรึกษากับแพทย์ที่รักษาโรคเบาหวานปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้แน่นอน
นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์จะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านกัญชา โดยเริ่มจากสามจังหวัดชายแดนใต้ก่อน และจะไล่ขึ้นมาสงขลา พัทลุง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง และชุมพร โดยจะรณรงค์เข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ
ส่วนในวันสงกรานต์จะไปรณรงค์ที่ถนนข้าวสาร แม้จะมีการตั้งร้านขายกัญชา แต่ตนเองก็จะไปรณรงค์ต่อต้ายเช่นกัน ซึ่งการเดินหน้ารณรงค์ของตนเองนั้นก็เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการณรงค์ภายในสถานีขนส่งหมอชิต นายชูวิทย์ ได้เดินไปเจอรถโดยสาร ที่กำลังจะเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ นายชูวิทย์ จึงเดินไปโบกรถ และติดสติ๊กเกอร์บริเวณกระจกหน้ารถ จากนั้นได้ขึ้นไปพูดคุยและแจกสติ๊กเกอร์รณรงค์กับพนักงานขับรถด้วย โดยมีประชาชนที่เป็นผู้โดยสารรถคันดังกล่าวโบกมือทักทายให้กำลังใจ